ผู้โดยสารกรี๊ดลั่น!สามเณรถลกจีวรโชว์บวบบนรถทัวร์ แจ้งตำรวจให้มาควบคุมตัว ยังสไลด์โชว์ในโรงพักต่อ
วันที่ 7 มกราคม 2567 เวลา 11.00 น.ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก จนท.รปภ.บขส.แห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ว่ามีพระภิกษุถอดจีวรและสบงโชว์บวบอยู่บนรถโดยสารประจำทางอุดรธานี-นครราชสีมา ทำให้ผู้โดยสารผู้หญิงแตกตื่นร้องกรี๊ด จนท.รปภ.ได้บอกให้ใส่สบงและจีวร ก่อนควบคุมตัวลงจากรถรอตำรวจมาควบคุมตัวไปโรงพักพร้อมกับบาตรและกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ
ตรวจสอบพบเป็นสามเณร อายุ 23 ปี ชาวตำบลเหล่า อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม มีอาการสติไม่ดีและท่าทางตุ้งติ้ง ตรวจค้นในกระเป๋าเดินทางพบขวดยารักษาอาการทางประสาทและขนมน้ำดื่มที่ญาติโยมใส่บาตรที่ตลาดช่วงเช้าวันนี้ แต่ไม่พบเอกสารทางราชการและใบสุทธิ โดยสามเณรสื่อสารพูดตอบกับตำรวจรู้เรื่องเป็นบางครั้ง
บางทีพูดไปก็ร้องไห้ว่าไม่มีคนรักไม่มีใครสนใจ ที่ทำอย่างนั้นบนรถทัวร์เพราะรู้สึกดีต่อใจ ก่อนอาศัยจังหวะตำรวจและสื่อมวลชนเผลอเดินไปนั่งชันหัวเข่าบนเก้าอี้พร้อมกับถลกสบงขึ้นไลด์หนอนอย่างไม่สนใจใคร ตำรวจได้บอกให้หยุดและนั่งให้เรียบร้อยสามเณรก็ทำตาม แต่มานั่งและหยิบเอาน้ำขนมและแปลงสีฟันยัดเข้ายัดออกจากปาก โดยไม่ได้แกะถุงออกเหมือนกับทำกิจกรรมอะไรบางอย่างให้ตำรวจและผู้สื่อข่าวดู
สอบถามสาม เล่าว่า บวชมาได้ 1 พรรษา ทีแรกจะบวชเป็นพระเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ แต่ตัวเองมีอาการทางประสาทหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มตอนอายุ 18 ปี เข้ารับการรักษาผ่าตัดสมองและต้องกินยารักษาอาการมาตลอด จึงทำให้ไม่ได้บวชเป็นพระตามที่ตั้งใจ และจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในต.หนองกุงสวรรค์ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม และหนีออกมาจากวัดได้ 3 วัน เพราะไม่มีคนรักคนเข้าใจ จึงเดินทางมาเที่ยวเมืองอุดรธานีได้ 1 วันและไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อก็มาถูกตำรวจควบคุมตัวมาโรงพัก
ด้านเจ้าหน้าที่ บขส. เล่าว่า ตอนเช้าเห็นพระมาขอชาร์จโทรศัพท์ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นสามเณร จึงหาที่ชาร์จให้ เสร็จแล้วบอกตนว่าจะเดินทางไป กทม.แต่พอช่วงสายกลับบอกว่าจะไป จ.นครราชสีมา ตนจึงพาไปฝากกับรถโดยสารประจำทาง โดยไม่ได้เสียค่าโดยสารสักบาท พอขึ้นไปบนรถก็ไปแก้ผ้าโชว์ของลับผู้โดยสารผู้หญิง จึงวิ่งมาบอก จนท.รปภ.และตนไปตรวจสอบนำลงมาจากรถรอตำรวจมาควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
ด้าน ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่า หลังสอบถามสามเณร ให้การไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงขอโทรศัพท์โทรไปหาญาติที่บ้านทราบว่า สามเณรมีอาการทางสมอง และได้หนีออกจากวัดมาประมาณ 3 วัน ขณะนี้ทางญาติกำลังเดินทางมารับตัวกลับบ้าน เพื่อทำการสึกและพาตัวไปรักษาอาการต่อ คาดว่าสามเณรไม่กินยาตามหมอสั่งจึงทำให้เกิดอาการแบบนี้.