นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง
ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-20 ธ.ค. 2562 พบว่าผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 76.8% มีการวางแผนออกนอกพื้นที่ในช่วงปีใหม่ เพื่อเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด โดย 84.7% มีการวางแผนท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมคนละ 15,615 บาท 15.3% วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 58,842 บาท โดยคาดว่าประชาชนจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2562 และกลับวันที่ 1 ม.ค. 2563 เฉลี่ยประมาณ 3-5 วัน ไปเที่ยวเฉลี่ย 2-4 คนต่อกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนซื้อของขวัญทั้งให้ตนเอง เช่น ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 16,362 บาท/คน เสี่ยงโชคคนละ 1,115 บาท/คน ซื้อสินค้าโอท็อป/คน 1,062 บาท และซื้อของให้ผู้อื่น เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 5,981 บาท/คน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 241 บาท/คน สินค้าคงทน (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน) 3,803 บาท/คน และพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมใช้จ่ายสำหรับตนเองในช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่ 91.1% จะทำบุญทางศาสนา รองลงมา 90.7% สังสรรค์ /จัดเลี้ยง ท่องเที่ยว 76.8%
ของขวัญยอดนิยมในช่วงปีใหม่ คือ ของรับประทาน สินค้าคงทน เครื่องดื่มบำรุงกำลัง กระเช้าของขวัญ เป็นต้น โดยมีปัจจัยในการเลือกซื้อของขวัญให้กับตนเองและผู้อื่นคือคุณภาพ ราคา และประโยชน์การนำไปใช้ จากพฤติกรรมการใช้จ่ายดังกล่าว ส่งผลทำให้เงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ขยายตัว 1.9% ถือเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 12 ปี คิดเป็นมูลค่า 137,809 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่รัฐบาลควรแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ เศรษฐกิจโดยรวม ปัญหาสังคม เสถียรสภาพทางการเมือง ปัญหาทุจริต และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ และปัจจัยที่น่าห่วงในปี 2563 ยังเป็นปัญหาเศรษฐกิจ การศึกษา สุขอนามัย ค่าครองชีพ ปัญหาเยาวชน เป็นต้น
ส่วนการให้คะแนนในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมาคะแนนเต็ม 10 การเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ ได้ 7.67 คะแนน ปัญหาสังคม 6.23 คะแนน ปัญหาคอร์รัปชั่น 5.81 คะแนน ปัญหาเศรษฐกิจ 5.56 คะแนน ปัญหาโดยรวม 5.44 คะแนน ปัญหาความขัดแย้ง 5.34 คะแนน
กลุ่มตัวอย่างอยากให้ชองขวัญเป็นกำลังให้
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด 58.8%
นายอนุทิน ชาญวีรกุล 21.5%
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 9.0%
นายวิษณุ เครืองาม 5.6% และอยากเดินทางท่องเที่ยวกับ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 20.2%
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 18.5%
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 10.4%
นายทักษิณ ชินวัตร 8.5%
ส่วนนักแสดงชาย ที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุดคือ
ณเดชน์ คูกิมิยะ, เกรท วรินทร, มาริโอ เมาเร่อ ฝ่ายหญิงคือ
ญาญ่า อุรัสยา, อั้ม พัชราภา, ใหม่ ดาวิกา นักร้องชาย
ตูน บอดี้สแลม, เบิร์ด-ธงไชย, ไผ่-พงศธร นักร้องหญิง
ต่าย อรทัย, ปาล์มมี่, อามชุติมา คำอวยพรให้กับประเทศไทยอันดับหนึ่งคือขอให้สมเด็จพระราชินีใน ร.9 และ ร.10 ทรงมีพลานามัยแข็งแรง ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้ค้าขายดี ๆ เป็นต้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้จะมีการขยายตัวแต่เป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี ซึ่งโดยรวมค่าใช้จ่ายที่ประชาชนใช้ในช่วงปีใหม่ 2563 เงินสะพัดประมาณ 137,809 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 58,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 79,000 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 ที่ 135,279 ล้านบาท ขยายตัวเพียง 1.9% และถือว่าขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่อัตราการเติบโต หรือจีดีพีขยายตัวเพียง 2.6% เนื่องจากประชาชนกังวลภาวะเศรษฐกิจจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง