"สมชาย" ฟันธงไม่ได้ใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ตปีนี้ บอกรัฐบาลคงไม่ผ่านด่านแรก

10 ม.ค. 67

 

"สมชาย" ฟันธงไม่ได้ใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ตปีนี้ บอกด่านแรกรัฐบาล คงไม่ผ่าน คกก.นโยบาย มองตอนนี้สุดทางแล้ว ทางลงสวยสุดลาออก-ยุบสภาฯ 

วันที่ 10 ม.ค. 67 ที่รัฐสภา นาย สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลและคณะทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาลว่า คณะกรรมการนโยบาย ดิจิทัล วอลเล็ต ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าการกู้เงินสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นที่ประจักษ์ 4 เรื่องคือ เป็นเรื่องเร่งด่วน ต่อเนื่อง มีวิกฤตเศรษฐกิจ และทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ไม่ทัน 

ต้องรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ โดยหากเร่งด่วนควรออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว มองว่าสิ่งที่ประเทศเป็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่วิกฤติ แต่คือภาวะฝืดเคืองเล็กน้อยหลังจากพ้นภาวะโควิด-19 และกราฟกำลังจะผงกหัวขึ้น ซึ่งโครงการนี้ถือว่าไม่คุ้มค่า 

“เหมือนกับที่ สตง. ป.ป.ช. เคยเตือนเรื่องจำนำข้าว ดังนั้นเชื่อว่าคณะกรรมการ ดิจิทัล วอลเล็ต ประกอบด้วยหน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานเศรษฐกิจ น่าจะให้คำแนะนำนายกฯ และบันทึกให้ชัดเจนว่าท่านเห็นด้วย เห็นต่างอย่างไร เรื่องนี้ไม่ยาก ก็อธิบายเป็นเหตุผลว่ารัฐบาลคงต้องหยุดโครงการ เพราะอุปสรรคทั้งหลาย และประชาชนรับได้แล้ว ผมคิดว่ารัฐบาลน่าจะเอาเข็มพุ่งไปพัฒนาในเรื่องอื่น” นายสมชาย กล่าว 

นายสมชาย ยังระบุว่า รัฐบาลต้องผ่านด่านได้คือคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตก่อน ซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วย ตนคิดว่าเอาตอนต้นก่อน ซึ่งด่านแรกนี้ตนเชื่อว่าไม่ผ่าน แต่ถ้าผ่านมาก็ต้องดูว่าคณะรัฐมนตรีจะลงมติได้หรือไม่ อย่าลืมเรื่องจำนำข้าวก็มีรัฐมนตรีติดคุก 2 คน ข้าราชการติดคุกจำนวนมาก ถ้าเข้าสภาฯมา อย่าคิดว่ามีเสียงพอ 377 เสียง ยังเคยล้มมาแล้ว เพราะฉะนั้น เตือนด้วยความหวังดี ไม่ต้องมาถึงวุฒิสภา ตนเชื่อว่าขั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ผ่าน ถ้าผ่านก็ต้องปรับแก้จำนวนมาก และหาก สว.ปรับแก้ ก็ตกเป็นจำเลยสังคมอีก และตนว่าปีนี้ก็ไม่ได้ใช้ ตนไม่ได้คัดค้านการกู้เงิน แต่ตนคัดค้านว่ามันไม่คุ้ม 

เมื่อถามว่า ตัวนายกรัฐมนตรีถ้าตัดสินใจเดินหน้าต่อจะเป็นอย่างไรต่อไป นายสมชาย กล่าวว่า ก็ขยัน มีความมุ่งมั่นอยู่ แต่ว่าไปผิดทิศ ถามแล้วเดินไปแล้วมันไปไม่ได้ด้วยอุปสรรค 2 ทางคือผิดกฎหมาย ก็มีชะตากรรมอดีตนายกฯอยู่แล้ว เรื่องคดีความ ส่วนถ้าทำไปแล้ว สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเป็นความรับผิดชอบทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องลาออกหรือยุบสภา อย่าดื้อดึง คนทักทั้งประเทศแล้ว ดีกว่าเดินหน้าลุยไฟไปแล้ว เห็นว่าข้างหน้าเป็นทางตัน 

ส่วนจะถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากไม่สำเร็จ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่รู้ เขาคงเปลี่ยนตอนวุฒิสภาหมดวาระมั้ง พร้อมหัวเราะและย้ำว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน เขาคงทำอะไรไม่ได้ 

เมื่อถามว่า มีการมองว่ารัฐบาลอาจกำลังมองหาทางลงอยู่ จึงต้องไปให้สุดทาง นายสมชาย ตอบทันทีว่า ตอนนี้สุดแล้ว ทางลงตอนนี้สวยสุดแล้ว กฤษฎีกาให้คำแนะนำมาแล้ว อธิบายได้ ให้ตนช่วยอธิบายก็ได้ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีฟังข้อกฎหมายให้ดี อ่านให้ละเอียด ด้วยความหวังดี การดื้อดึงของรัฐบาลการเมืองนำไปสู่วิกฤตทั้งนั้น

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม