หลวงพี่น้ำฝน ฟาด ลงนะหน้าทองทำแค่บริเวณใบหน้าเท่านั้น ไม่ใช่การทำในที่ต่ำๆ ชี้เข้าข่ายมนต์ดำ มั่วเชื่อไม่มีทางได้ผล อย่าโบ้ยว่าลูกศิษย์ขอให้ทำ
หลังจากเป็นที่ฮือฮา เมื่ออาจารย์ท่านหนึ่งกำลังทำพิธี “ลงนะดาก” ที่ปกติเราจะเห็นแต่ “ลงนะหน้าทอง” ที่มีการแปะแผ่นทองบริเวณใบหน้า เพื่อเสริมสิริมงคลตามความเชื่อ แต่พิธีที่อาจารย์ท่านนี้กำลังทำ มีวิธีการคล้ายกัน แต่เปลี่ยนจากแปะแผ่นทองที่ใบหน้า มาแปะบนบั้นท้ายหญิงรายหนึ่ง และมีการสวด เป่าคาถา แถมปิดท้ายด้วยการเลีย
ภายหลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ ทำเอาหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก
ล่าสุดหลวงพี่น้ำฝน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม และประธานคณะทำงานดำเนินการแก้ไขข้อขัดข้องระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวอมรินทร์ออนไลน์ว่าคำว่านะหน้าทอง คือทำอยู่ที่บริเวณหน้า การไปลงที่ส่วนอื่นจึงไม่ใช่นะหน้าท้องแล้ว
ที่สำคัญการลงนะหน้าทองมีหลักธรรมประจำใจ คือ ไม่ใช่การไปลงในที่ต่ำๆ โดยส่วนใหญ่จะลงอยู่ที่บริเวณหน้าผากและที่บริเวณหน้าเท่านั้น ซึ่งคาถาที่ลงไปเป็นของพระพุทธเจ้าทั้งหมด
และที่กำลังเป็นกระแสหรือเป็นข่าวตอนนี้เข้าข่ายสายดำ ไม่เกี่ยวกับพุทธคุณ กลายเป็นการทำเสน่ห์ยาแฝด ซึ่งอาตมาภาพไม่เคยเจอสิ่งนี้ที่ไปทำกัน และการทำพิธีลงนะจะต้องทำในที่แจ้ง ลงในที่โปร่งใส แต่ในข่าว ถือว่าไม่ใช่วิชาในการทำพิธีลงนะอย่างแน่นอน
”อยากให้ญาติโยมจำไว้ว่าการลงนะหน้า คือลงอยู่ที่บริเวณใบหน้าของเราไม่สมควรไปลงที่อื่น ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความอุจาด ส่วนการไปลงนะหน้าอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใด กลายเป็นเรื่องของอวิชา เป็นสายมนต์ดำ ดังนั้นย้ำว่าการทำพิธีลงนะหน้าทองสมควรอยู่ที่บริเวณใบหน้าเท่านั้น ในการทำพิธีในจุดอื่นๆของร่างกาย อย่าไปเหมารวมว่าคือการลงนะหน้าทอง เพราะไม่ใช่อย่างแน่นอน ส่วนการลงนะที่บริเวณก้น อวัยวะเพศ ยืนยันว่าไม่มีอยู่ในตำรา โดยเฉพาะในตำราของครูบาอาจารย์ ถ้าเป็นพระเถราจารย์ หรืออาจารย์คนไหน ที่อาศัยหลักพุทธคุณในการดำเนินให้กับศิษย์ยานุศิษย์ ไม่มีอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นวิธีทางอวิชา หรือมนต์ดำ“
ส่วนคนที่จะทำพิธีลงนะได้ ต้องเป็นใคร ต้องร่ำเรียนมาหรือไม่ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า คนที่จะทำส่วนใหญ่ต้องมีครูบาอาจารย์สอน แต่ครูบาอาจารย์ หรือพระรูปใด คงไม่สอนให้ลูกศิษย์ไปลงนะในลักษณะแบบที่เป็นข่าวแน่นอน และย้ำว่าไม่มีในตำรา เรียกว่าอวิชา
ส่วนวิชา คือต้องมีหลักธรรมเข้ามาประจำใจ โดยการใช้ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งก็คือหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ซึ่งลักษณะการกระทำที่เกิดขึ้นเข้าข่ายการหลอกลวงในการทำพิธี และยิ่งไปทำพิธีในลักษณะที่เป็นข่าว ยิ่งจะทำให้เกิดกิเลส เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างชัดเจน ที่ผ่านมามีคนมาลงนะหน้าทองเนื่องจากอกหัก อาตมาก็ได้สอนให้เอาเวลาไปประกอบสัมมาอาชีพ ทำมาหากิน และสามารถดึงเขากลับมาสู่ตัวเองได้ ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่จะต้องมีการทำพิธีเพื่อให้แฟนกลับคืนมา ถือว่าเป็นสิ่งที่ยืนยันและสามารถช่วยให้ศิษย์คนนั้นกลับมาตั้งตัวเองได้และอยู่ในสติในการดำเนินชีวิตประกอบสัมมาชีพได้อย่างแน่นอน
สำหรับการลงนะหน้าทอง เพราะเป็นความเชื่อเรื่องเมตตามหานิยม โดยส่วนใหญ่คนอยากได้พลังอยากได้กำลังใจที่จะกลับไป พระสงฆ์หรือฆราวาส หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าอยู่ในกรอบศีลสมาธิ ปัญญา สามารถทำได้ เนื่องจากเสมือนการให้พรและกำลังใจ ในการดำเนินชีวิต ดังเช่นที่อาตมาได้ทำ คือการให้พรชนิดหนึ่ง โดยการเขียนลงไปที่หน้าเพื่อแสดงถึงการให้พรไปถึงจุดที่ต้องการการได้รับกำลังใจ และเกิดความสบายใจ พร้อมย้ำว่าการลงนะหน้าทอง คือการให้พรชนิดหนึ่งให้กับญาติโยมนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คนที่ทำพิธีนี้อยู่เมืองสุรินทร์ เป็นไปได้ไหมว่าาจะเล่นของเขมร หลวงพี่น้ำฝน ระบุว่า เป็นไปตามที่อาตมาได้บอกว่าไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปตามตำรา จึงอาจมีการเหมารวมไปกับการทำเสน่ห์แฝด มีการท่องคาถาให้ผัวรักผัวหลง ซึ่งในตำราของครูบาอาจารย์ พระ หรือฆราวาส จะไม่มีในลักษณะนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายกับการทำเสน่ห์แฝด รวมถึงการทำมนต์ดำและสายดำ
ส่วนคาถาที่เขาบริกรรม ขณะเป่าคือคาถาบทไหน มั่วหรือของจริงหรือไม่นั้น มีการนำเอาคาถาพระพุทธคุณไปผสมกับคาถามนต์ดำประสมปนเปกันมั่ว เช่น ”รักกูหลงกู“ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะได้ผลอย่างแน่นอน จึงขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ใช่พิธีกรรมที่อยู่ในตำราทางพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณอย่างแน่นอน
อยากเตือนสติญาติโยม ไม่ว่าจะไปทำพิธีกรรมใดๆ ถ้าใช้หลักการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ภายใต้เหตุผล รับรองว่าจะไม่เจอกับสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นต้องใช้การพินิจพิจารณาตัวเองก่อนว่าการทำพิธีแบบนี้สมควรหรือไม่ ต้องมีวิจารณญาณของตัวเองที่จะรู้ได้อย่างชัดเจน เช่น กรณีนี้คนด่าเป็น 100 ก็ใช้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นอย่าคิดไปทำ
ส่วนที่บุคคลดังกล่าวมีการออกมาระบุว่า เป็นความต้องการของลูกศิษย์ ที่ต้องการลงในจุดอวัยวะเพศ หน้าอก หรือก้น เพื่อเรียกทรัพย์ต่างๆ นั้น เรียกว่าเป็นการแถ หากต้องการลงแบบนั้น เราที่เป็นครูอาจารย์ต้องบอกว่าไม่มีในตำรา ไม่ใช่ว่าอยากให้ทำในจุดไหนก็ทำ เราเป็นครูบาอาจารย์จะต้องมีเหตุผล และย้ำอีกครั้งว่าไม่มีในตำราที่เราเรียนมาแน่นอน.