เศร้ารับวันเด็ก! ผัวเมียชาวตรังอุ้มลูกน้อย 2 คน ร้อง “ปวีณา” คนเล็ก 2 ขวบถูกหม้อน้ำมันทอดลูกชิ้นร้อนๆ คว่ำใส่ลวกทั่วตัว ประสานรพ.ยันฮีช่วย
วันที่ 12 ม.ค. 67 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายนิคม อายุ 41 ปี และนางยุพารัตน์ อายุ 34 ปี สองสามีภรรยาอุ้มลูกน้อย 2 คน คือ ด.ช.เอ 4 ขวบ และ ด.ช.บี 2 ขวบเดินทางมาจาก จ.ตรัง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ
เพื่อขอความช่วยเหลือ ครอบครัวยากจนลูกชายคนโตพิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และลูกชายคนเล็กถูกน้ำมันร้อนๆ ลวกทั้งตัว รักษาอาการดีขึ้น เป็นแผลพังผืดเจ็บปวดทั้งร่าง ร้องไห้ทั้งกลางวันกลางคืนอยู่อย่างทรมาน จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือลูกชายเข้ารับการรักษาให้หายเจ็บป่วยทรมานด้วย
นางยุพารัตน์ เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกชายคนโตเกิดมาก็เป็นลมชัก และพิการทางสมอง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เคยรับการผ่าตัดสมองมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ก็ยังมีอาการชักอยู่ประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ปัจจุบันพ่อแม่ยังพาลูกไปรักษาต่อเนื่องในรพ.ที่กรุงเทพฯ โดยต้องพาลูกขึ้นมาพบแพทย์ตามนัดทุก 2 เดือน มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่ายานอกบัญชี แพมเพิส และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อทุกวัน
แม่ต้องเลี้ยงดูลูกสองคนไม่ห่าง ส่วนพ่อทำงานหาเงินคนเดียว โดยการเป็นลูกจ้างในอู่ซ่อมรถมีรายได้เพียงวันละ 300 บาท ไม่พอกับรายจ่าย พ่อกับแม่ต้องอดทนเพื่อลูกมาโดยตลอดชีวิตนี้ก็ให้ลูกได้ และหวังว่าสักวันลูกคนโตต้องอาการดีขึ้น
แต่โชคร้ายก็ถาโถมเข้ามาในชีวิตอีก เมื่อวันที่ 16 พ.ค.65 ขณะที่ลูกคนโตหลับอยู่ในห้อง ตนได้จูงมือลูกคนเล็กออกไปซื้อลูกชิ้นทอดที่ร้านของพี่สะใภ้ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านระหว่างที่จับมือลูกตัวเองเลือกลูกชิ้นอยู่นั้นหันไปเห็นลูกของพี่สะใภ้ที่ยังเล็กอยู่กำลังจะตกเก้าอี้ ตนจึงเผลอปล่อยมือลูกตัวเอง เพื่อหันไปช่วยลูกพี่สะใภ้ไว้ได้ ซึ่งจังหวะนั้นลูกคนเล็กของตนก็เสียหลักล้มมือไปดึงสายยางถังแก๊สที่เชื่อมต่อกับเตาแก๊สจนทำให้หม้อน้ำมันที่กำลังเดือดอยู่บนเตาปริมาณร่วม 2 ลิตรคว่ำลงมาทั้งหม้อ ลวกตัวลูกชายของตนจนทุรนทุรายดิ้นพล่าน
แม่แทบช็อกใจจะขาดเห็นสภาพลูก ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นได้รีบช่วยกันพาลูกของตนส่งโรงพยาบาลโดยใช้สิทธิ์ 30 บาทในการรักษา พบว่าน้ำมันร้อนๆได้ลวกตามร่างกายลูกบริเวณหน้าอกลงมาถึงหน้าท้องแขนมือและขาทั้ง 2 ข้างนอนรักษาตัวอยู่ 2 เดือนแพทย์ดูแลอย่างดี
ระหว่างนั้นสามีของตนก็ไม่ได้ทำงาน เพราะต้องดูแลลูกคนโตและจะต้องพาลูกคนโตเข้ากรุงเทพฯ พบแพทย์ตามนัด แม่จึงขอแพทย์นำลูกคนเล็กกลับมาดูแลทำแผลต่อที่บ้าน เพื่อที่จะได้พาลูกคนโตไปพบแพทย์และให้สามีออกไปทำงานหาเงินด้วยความยากลำบากและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้บางครั้งที่ไม่มีเงินพ่อแม่ต้องไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องเป็นหนี้เป็นสิน หลังบาดเจ็บเข้าเดือนที่ 4 แพทย์ได้ทำการผ่าตัดแปะหนังที่หน้าท้อง จากนั้นก็ล้างแผลมาตลอด เพราะหนังปิดไม่สนิท จนเข้าเดือนที่ 8 กว่าที่แผลจะแห้ง จากนั้นแพทย์ได้ให้ยาแก้คัน และโลชั่นมาทาตามผิวหนัง เพื่อบรรเทาอาการคันและผิวหนังตึง
และแพทย์ก็ได้แนะนำยานอกบัญชี ซึ่งมีราคาแพงให้มาใช้ทาที่ผิวหนังของลูก แต่แม่ไม่มีเงินซื้อตั้งแต่เดือน ต.ค.66 ลูกชายคนเล็กร้องเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา เพราะคันและเจ็บปวดบริเวณตามแขนขาที่เป็นพังผืดนอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา แม่ใจแทบขาดสงสารลูกไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนึกถึงมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือให้ลูกทั้ง 2 คนพ้นจากความทุกข์ทรมานและอาการดีขึ้นได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ
หลังรับเรื่องนางปวีณาได้ประสาน นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลยันฮี เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการรักษา ด.ช.บี วัย 2 ขวบ โดยนางปวีณาจะพาหนูน้อยรายนี้เดินทางไปพบ นพ.สุพจน์ ที่โรงพยาบาลยันฮีในวันเด็กที่ 13 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. เพื่อรับตัวเข้าแอดมิดในโรงพยาบาลทันที