พ่อแวะปั๊มเข้าห้องน้ำ แต่ลืมลูกตามหาจ้าละหวั่น

14 ม.ค. 67

จอดปั๊มเข้าห้องน้ำ ลืมลูกอยู่ในปั๊มตามหาจ้าละหวั่น พ่อยอมรับนึกว่าลูกขึ้นรถแล้ว เห็นผ้าห่มเบาะหลังคลุมคล้ายคนนอนอยู่

วันที่ 14 มกราคม 2567 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนายอนุสรณ์ พรมรักษ์ อายุ 36 ปี พร้อมด้วยภรรยาว่าลูกชายของตนเอง ชื่อ น้องโฟกัส อายุ10ขวบ ได้หายไปจากรถของตนเอง โดยตนเองไม่ทราบว่าลูกได้หายไปจากรถตอนไหน และปั๊มน้ำมันไหนขาเข้ากรุงเทพ มาทราบว่าลูกตนเองหายไปก็ตอนขับรถมาถึงอ.วังน้อย เข้าเขต จ.พระนครศรีอยุธยาแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงได้ประสานไปยังลูกข่ายตามจุดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสระบุ รีให้เข้าตรวจสอบภายในบริเวณปั๊มน้ำมัน ว่ามีเด็กพลัดหลงจากพ่อแม่หรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ได้รับแจ้งว่าพบเด็กพลัดหลงจากพ่อแม่ อยู่ภายในปั๊มน้ำมันปตท.กม.10 ถ.มิตรภาพ อ.แก่งคอย (ขาเข้าเมืองสระบุรี) ทราบชื่อน้องโฟกัส ตามนายอนุสรณ์ได้แจ้งหายไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ พบน้องโฟกัสนั่งอยู่ภายในร้านอาหารภายในปั๊มน้ำมันด้วยสีหน้าที่เศร้า และสอบถามจึงทราบว่าพลัดหลงกับพ่อและแม่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวมายัง สภ.แก่งคอย และได้ประสานไปยังนายอนุสรณ์ว่าพบน้องโฟกัสแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมารออยู่ สภ.แก่งคอย และให้นายอนุสรณ์เข้ามารับ และเมื่อนายอนุสรณ์และครอบครัวมาถึง สภ.แก่งคอย ทุกคนต่างโผเข้ากอดกันร่ำให้ด้วยความดีใจ จากนั้นนายอนุสรณ์และครอบครัวได้เดินทางไปยังปั๊มน้ำมันที่น้องโฟกัสพลัดหลง เพื่อที่จะเข้าไปขอบคุณนางสาคร พนักงานร้านอาหารภายในปั๊มที่ช่วยดูแลลูกของตนเอง

ทางด้านนายอนุสรณ์ พ่อน้องโฟกัส เผยว่า ตนเองพร้อมด้วยภรรยาและ ลูกทั้งหมด 5 คนขับรถฟอร์จูนเนอร์เดินทางมาจาก จ.ระนองเพื่อพาภรรยาและลูกๆมาหาแม่และยายที่ จ.อุบลฯ จากนั้นได้เดินทางจากจ.อุบลฯ เพื่อที่กลับบ้านที่ จ.ระนอง โดยขับรถยนต์มาและจอดพักล้างหน้าตามปั๊มมาตลอดทาง เนื่องจากเกิดอาการง่วงนอนก็จะจอดนอนไปเรื่อยๆ

และเมื่อมาถึงปั๊มที่แก่งคอย ตนเองได้ลงไปล้างหน้าและกลับขึ้นมาบนรถ ก็ยังมองดูว่าลูกนอนหลับกันหมด โดยห่มผ้าห่มกันคนละผืน ซึ่งตอนที่ลูกตนเองลงรถไปนั้น ตนเองยังไม่รู้ มารู้ก็ต่อเมื่อมาจอดรถอีกปั๊มหนึ่ง ถึงได้รู้ว่าลูกหายไป ส่วนที่ไม่รู้คิดว่าลูกนอนอยู่ใต้ผ้าห่มไม่คิดว่าจะมีใครหายไป ก็เลยขับรถออกมา ตนมารู้ว่าลูกหายไปก็ต่อเมื่อพี่ชายคนโตเปิดผ้าห่มดู จึงได้รู้ว่าลูกตนเองหายไป 1 คนทำให้ตนเองและภรรยาตกใจมาก จึงได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯให้ช่วยตามหาและช่วยประสานกันพร้อมโทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ส่วนตนเองรู้สึกดีใจมาก ที่ได้เจอลูกชาย ภรรยาของตนเองตกใจมากจนสติจะหลุดอยู่แล้ว ร้องไห้มาตลอดทาง ส่วนลูกชายของตนนั้นเป็นเด็กที่ไม่ดื้อไม่ซน และเป็นคนที่ไม่ค่อยจะพูดจากับคนแปลกหน้า ขอขอบคุณทางด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอยที่ช่วยออกตามหาลูกชายตนเองจนพบ ซึ่งตนเองจะจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปตลอดชีวิต ส่วนตนเองขอฝากให้คนขับรถ ขอให้มีสติเช็ครถอย่างเดียวไม่พอ ต้องเช็คคนด้วย จะขึ้นจะลงจากรถเข้าห้องน้ำคนเดียวหรือมีคนที่รวมเดินทางเมาเข้าด้วยไหม ควรดูทุกครั้งก่อนที่จะออกรถไปสู่สถานีต่อไป.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส