ครอบครัวคนงานสาววัย 29 ปี รับศพกลับภูมิลำเนากาญจนบุรี แม่ขาพิการร่ำไห้ บอกจะออกทำงานหาเลี้ยงลูกชาย 10 ขวบให้เอง ด้านสามียอมรับหลังได้ยินเสียงระเบิด สติหลุด วิ่งหาร่างภรรยา
บรรยากาศที่วัดโป่งไหม อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ครอบครัวนางสาวน้ำฝน เกิดนอก อายุ 29 ปี ผู้ที่พบศพ รายล่าสุด ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป ไปจูงศพจากวัดโรงช้าง ซึ่งทันทีที่เคลื่อนร่างมา บรรดาญาติก็ร่ำไห้เกาะโลงศพปานจะขาดใจ
ต่อมา สัปเหร่อได้มาทำพิธีมัดตราสังข์ศพได้เปิดฝาโลงออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ห่อร่างผู้ตายอย่างมิดชิดก่อนที่ญาติ ๆ จะพยุง นางนกเล็ก ดอกไม้ทอง ผู้เป็นแม่ และเป็นผู้พิการที่ขา มาดูร่างไร้วิญญาณลูกสาว ในห่อผ้า นางนกเล็กก็ร่ำไห้คร่ำครวญบอกว่า ยังไม่ได้กอดลูกสาวเลย และบอกว่าจะตั้งใจทำงานหาเงินเลี้ยงลูกชายของผู้ตายให้ ญาติจึงเข้าไปปลอบใจ และบอกว่า ร่างของนางสาวน้ำฝน เจ้าหน้าที่เก็บมาให้ครบสมบูรณ์กว่าศพอื่น ให้นางนกเล็กทำใจ
อีกคนที่ร่ำไห้ตลอดเวลา และถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้นศาลาวัด คือ นายทวีชัย เกตุทอง 33 ปี สามีของนางสาวน้ำฝน ที่บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยากลับมาบ้านที่เลาขวัญ บ่นกับแม่คือนางนกเล็กว่าอยากจะเลิกทำงานที่โรงงาน เพราะกลัวระเบิดจากการทำงาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ภรรยาเคยมาเล่าให้ฟังมีคนมาทำงานใหม่ ทำผิดขั้นตอนลากถาดแต่ภรรยาตัวเองไปเห็นเลยห้ามไว้ และบอกว่าอย่าทำแบบนี้ ซึ่งภรรยาก็เลยกลัวว่าคนที่มาทำงานใหม่จะทำแบบนั้นและเกิดระเบิดอีก จึงอยากจะเลิกทำ และก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ที่บ้านกับหมาบางแก้วของภรรยาที่ชื่อเป๋า พัดลมเพดานก็กระเด็นหลุด เหมือนเป็นลางบอกเหตุ
ผ่านไปเพียงแป๊บเดียว ตนเองก็ได้ยินเสียงลูกบอลดังขึ้นก่อน และตามด้วยเสียงระเบิด ดังสนั่น ตนเองจึงเปิดหน้าต่างดูเห็นโรงงานระเบิด จึงสติแตกวิ่งไปโรงงาน ตามหาภรรยา แต่ไม่เจอ และหมาบางแก้วที่ภรรยาเลี้ยงไว้ ซึ่งมักจะวิ่งไปรับภรรยาทุกวันหลังเลิกงานก็วิ่งตามตนเองไปด้วย เพื่อตามหาภรรยาเจ้าของมัน แต่ไม่เจอภรรยาแล้วในขณะนั้น ตอนนี้อยากบอกภรรยาว่าให้พักผ่อนไม่ต้องเหนื่อยแล้ว