พ่อแม่น้องจ๋า ฟังผลชันสูตรศพลูกสาวร่วงตึก 33 ชั้น ดับที่มาเลเซีย พบแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัว อวัยวะทุกส่วนหักหมด ประสานตร.สากลขอผลชันสูตรรอบแรก
วันที่ 22 ม.ค. 67 ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.นพรัตน์ อินปรุ อายุ 62 ปี และนายณรงชัย พันธ์สระน้อย อายุ 63 ปี พ่อและแม่ของน้องจ๋า อายุ 21 ปี ลูกสาวเพิ่งเรียนจบระดับปริญญาตรี พลัดตกจากตึกชั้น 33 เสียชีวิตที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 67 เดินทางไปฟังผลชันสูตรศพ ภายหลังพ่อแม่คาใจการเสียชีวิต
นางปวีณา กล่าวภายหลังรับฟังผลชันสูตรเบื้องต้นว่า แพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้น พบว่าตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัว ที่คาง ไหล่ ก้น หลัง ต้นแขน และขาหนีบ ซึ่งเกิดจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมก่อนเสียชีวิต
และพบว่ากระดูกกะโหลกด้านหลังแตก กระดูกต้นขาหัก กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงซ้าย-ขวา ด้านหลังหัก อวัยวะทุกส่วนหักหมด นอกจากนี้ยังได้ตัดชิ้นส่วนตับ เพื่อไปตรวจดูสารพิษ และตัดเล็บไปตรวจหาเนื้อเยื่อหรือ DNA และทำการเก็บสารคัดหลังในช่องคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจจากห้องแลป เพื่อทราบผลอย่างละเอียด
นางปวีณา กล่าวต่อว่า ครั้งนี้เป็นการผ่าตัดครั้งที่ 2 จึงมีข้อจำกัด เนื่องจากมีการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกมาจากที่ประเทศมาเลเซีย และมีการฉีดฟอร์มาลีนมาแล้ว ทำให้มีข้อจำกัดในการตรวจสารพิษ หาเลือดไม่ได้เลยเพราะเลือดหมดแล้ว ปัสสาวะก็ไม่มี
นางปวีณา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้ขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร. ประสานตำรวจสากลและตำรวจมาเลเซีย เพื่อขอผลชันสูตรศพของน้องจ๋าในครั้งแรก ขณะนี้พ่อแม่ของน้องจ๋ายังเกิดความกังขาในเรื่องรอยช้ำตามร่างกายก่อนเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ครั้งแรกที่มาเลเซียที่จะนำมาพิจารณาร่วมด้วยว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากสาเหตุใด
ด้านพ่อน้องจ๋า กล่าวว่า พ่อแม่เสียใจ ยังทำใจไม่ได้ เพราะมีลูกสาวคนเดียว เพิ่งเรียนจบก็หวังจะเป็นเสาหลักครอบครัว ดูแลพ่อแม่ในยามชรา แต่ไม่ว่าผลการตรวจชันสูตรจะออกมาว่าอย่างไรพ่อแม่ก็ต้องทำใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นางปวีณาพร้อมด้วยพ่อแม่น้องจ๋า กำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอยู่นั้น แม่ของน้องจ๋าที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกสาวและยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกที่แท้จริง จึงทำใจไม่ได้ และเป็นลมหมดสติล้มทั้งยืน ทำให้นางปวีณา ผู้สื่อข่าว และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวเข้าตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ตร.ทันที