เหยื่อถูกหลอกไปปฏิบัติธรรมสูญเงินกว่า2แสนบาท ใครไม่เชื่อเจอปืนจ่อหัว!

27 ม.ค. 67

เหยื่อไปทำบุญที่คำชะโนด ถูกหลอกไปปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย พอหลงเชื่อเริ่มถูกทักหลายอย่าง หลอกทำพิธีเสียเงินกว่า 2 แสนบาท พอมีท่าทีไม่เชื่อชักปืนออกมาจ่อหัวบังคับให้คล้อยตาม พร้อมแฉในสถานปฏิบัติธรรมมีเหยื่อเป็นนักธุรกิจ คนมีชื่อเสียง เสียเงินเป็นล้านสอนในเรื่องสาปแช่งคนไม่มีการปฏิบัติธรรมจริง

นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี และนางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นำภาพภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย มาเปิดเผยกับสื่อมวลชน พร้อมนำเรื่องราวความผิดปกติภายในสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาเปิดเผย ภายหลังเพิ่งรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเอาเงินไปกว่า200,000 บาท และได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้กับ ร.ต.อ.ศราวุธ จันทะวงษ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2566ที่ ผ่านมา

โดย น.ส.บี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าส่วนตัวชอบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2566 ที่ผ่านมาได้ไปทำบุญที่วัดป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และขากลับได้แวะที่บ้านนาคคำชะโนดซึ่งเมื่อเข้าไปก็พบว่าเป็นช่วงที่มีการทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์พอดีซึ่งมีประชาชนหลายคนนำลูกแก้วมาถวายในพิธีเป็นจำนวนมากตามความเชื่อและศรัทธาซึ่งตนเองก็ได้ไหว้ขอพรโชคลาภเสร็จก็เห็นกลุ่มคนชุดขาวประมาณ 10 กว่าคนมาร่วมพิธีด้วยโดยตนเองเกิดความสนใจได้เข้าไปสอบถามว่ามาจากที่ไหนกันจึงได้ทราบว่ามาจากสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งที่ จ.หนองคายและยังชักชวยมาร่วมปฎิบัติธรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายหลังพูดคุยเสร็จตนเองก็ได้เดินทางกลับขอนแก่นทันที

ด้วยความที่เป็นคนชอบในเรื่องแบบนี้อยู่แล้วจึงได้เดินทางมาที่สถานปฎิบัติที่ จ.หนองคาย ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านดงเจริญ ตำบลหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดหนองคายเมื่อช่วงต้นเดือน สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เมื่อไปถึงก็พบชายคนหนึ่งบอกว่าเป็นอาจารย์เจ้าของสถานปฏิบัติธรรม ชื่ออาจารย์มังกร พร้อมทั้งทักตนเองว่าอาจเกิดอุบัติเหตุหากเดินทางต่อ จึงชวนมาร่วมปฎิบัติธรรมประกอบกับตนเองมีความทุกข์ในใจอยู่แล้ว จึงตกลงที่จะร่วมเมื่อเข้าไปภายในสถานปฏิบัติธรรมพบคนที่อยู่ประจำสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้พร้อมทั้งคอยดูแลสถานที่และคนที่มาปฎิบัติธรรมรวมประมาณ 10 คน ซึ่งพูดจาดีดูแลตนเองเป็นอย่างดี ก่อนที่อาจารย์มังกรจะเข้ามาทักว่าวิญญาณพ่อของแฟนตนเองไม่สงบสุข จึงได้ชักชวนให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งตนเองก็เชื่อสนิทใจ จึงตกลงร่วมพิธี แต่พิธีนั้นทางอาจารย์มังกรบอกว่าไม่สามารถเปิดให้ใครได้เห็นตอนทำพิธีได้ ก่อนจะโทรกลับมาบอกว่าทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดวงวิญญาณสงบสุขไปสู่สุคติแล้วครั้งแรกจบไปตนเองก็ยังเชื่อและศรัทธา ปฏิบัติธรรมอยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ อาจารย์มังกรก็จะมาทักเรื่อย ๆ หาเหตุมาอ้างเพื่อทำพิธีให้ตนเองจ่ายเงินซึ่งตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ตนเองหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ ทั้งจ่ายเงินสด ทั้งโอนเงินให้ รวมแล้วทั้งสิ้นเป็นเงิน 207,400บาท

ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ไม่ได้มีการปฎิบัติธรรมอย่างที่คิดไว้ และจะอ้างชื่อหลวงปู่เหมือนเกจิชื่อดังซึ่งมรณภาพไปแล้ว โดยเอามาหลอกลวงเหยื่อรายอื่น ๆ ให้หลงเชื่อและก็เห็นกลุ่มคนที่หลงเชื่อโดยอาจารย์มังกรบอกว่าเป็นคนที่หลวงปู่เหมือนเลือก สูญเงินตั้งแต่หลักแสน ถึงหลักล้านโดยตนเองเห็นนักวิชาการคนหนึ่ง โอนเงินให้กับทางสถานปฏิบัติธรรมเป็นเงินหลักล้านบาท รายอื่น ๆ หลักแสนก็มี แต่ก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนจ่าเงินกันเท่าไหร่แต่ทุกคนจะถูกย้ำด้วยคำพูดว่าทุกคนคือคนที่หลวงปู่เหมือนเลือกแล้วและยอมทำตามทุกอย่างตามความศรัทธาแต่ละคนและทุก ๆ คนที่โอนจะไม่โอนเข้าบัญชีของอาจารย์มังกร แต่จะเป็นคนอื่นที่อยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเป็นบัญชีรับเงินโดยทั้ง13คนจะมาทุกวันเสา-อาทิตย์ซึ่งไม่ทราบว่ามาเรียนวิชาอะไรบ้าง เป็นการเรียนมาแล้ว 16 ปี แต่บอกว่าให้เรียนเพราะหลวงปู่เหมือนเลือกแล้วจึงต้องเรียนและตนเองต้องการให้ชีวิตดีขึ้น แต่ในวิชาที่เรียนนั้นเป็นเรื่องของพิธีการสาปแช่งอ้างต่าง ๆ นา ๆ ทั้งเรื่องการเมืองเรื่องสถาบันแอบอ้างตัวว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังคอยดูแลยกตัวอย่างเรื่องพรรคการเมืองสีส้มที่ไม่ได้เป็นนายกก็เพราะอาจารย์มังกร

นอกจากนี้ภายในสถานปฏิบัติธรรม ยังมีการเปิดอู่ซ่อมรถด้วย โดยได้เอารถของตนเองมาเช็กให้แล้วบอกว่าสภาพรถไม่ดีเลยต้องซ่อมหลายยอย่างพอเริ่มซ่อมก็มีค่าเปลี่ยนยอะไหล่เข้ามาอีกหลายอย่างเราก็จ่ายไปเพราะยังเลื่อมใสศรัทธาอยู่พูดอะไรมาเราก็เชื่อ ณ เวลานั้นก่อนที่จะเริ่มสงสัยว่าทำไมรถไม่ดีขึ้นจึงนำมาให้อู่ภายนอกดู ช่างบอกว่าหมดทั้งคันเป็นอะไหล่ปลอมและเป็นอะไหล่ที่เสียแล้วมาซ่อมให้ เราจึงเริ่มมาย้อนคิด หลังจากอยู่ได้ 3 เดือน และมีจุดแตกหักตนเองขอไปดูแม่ แม่จะผ่าตัดที่โรงพาบาล แต่อาจารย์มังกรโวยวายไม่ให้ออกไปบอกว่าเราจะมีชีวิตที่ไม่ดีจะต้องตายแต่ตนเองมองว่าถ้าอยู่ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น พอกลับออกมาได้2สัปดาห์จึงเข้าแจ้งความแต่ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เพราะไม่มีมูลไม่มีคนมาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ กระทั่งมีช่วงเช้าวันนี้มีทางตำรวจโทรมาแจ้งให้ไปแจ้งความ หลังมีเหยื่อเป็นหญิงคนหนึ่งไปแจ้งความเช่นเดียวกัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายและตำรวจได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมดในเรื่องนี้เองตนเองก็ขอดูสุขภาพตัวเองก่อนและอยากจะฝากเตือนคนอื่น ๆ อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อและคงบอกได้แค่ระวังและดูให้ดีก่อนเชื่อ

ด้านนางเอ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าในช่วงที่ไปปฏิบัติธรรมนั้นตนเองเป็นคนที่ไม่เชื่อ อาจารย์มังกรมองหน้ามองตาตนเอ งแล้วบอกว่าตนเองไม่เชื่อเขาสั่งอะไรก็ไม่ยอมฟังไม่ยอมทำตามเพราะตนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย จนอาจารย์มังกรเอาปืนออกมาจ่อหัวขู่บอกว่าให้ทำตามไปสาปแช่งคนนั้นคนนี้แต่ตนเองไม่ชอบไปด่าใครและไม่มีความจำเป็นจะต้องด่าใครการปฏิบัติธรรมจะเป็นการเรียนดึกๆดื่นๆมีการต่อว่าคนอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอด ส่วนตัวมองการเป็นอาจารย์ต้องให้ลูกศิษย์เคารพแต่มาด่ามาว่าแถมมีพฤติกรรมข่มขู่ให้เชื่อตามอีกทั้ง 13 คน ที่ตกเป็นเหยื่อขณะนี้นั้น ส่วนตัวได้มีการพูดกันบ้างมีหลายคนเริ่มไม่เชื่อแล้ว แต่บ้านที่อยู่ใกล้ เมื่อออกไปจากสถานปฏิบัติธรรมอาจารย์มังกรก็จะเอาคนไปอ้อนวอนให้กลับมาอีก ประชาชนที่เคยโดนหลอกก็อยากให้เข้ามาแจ้งความที่ สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ส่วนตัวได้บอกคนดูแลเอาไว้แล้วว่าอย่าไปตามประวัติเรื่องลูกแก้วให้คนที่มาทำบุญฟังไม่งั้นก็ต้องเข้าไปเจอสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้อีก

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส