ชวนเพื่อนต่างถิ่นมาดื่มเหล้าที่บ้าน วัยรุ่นเจ้าถิ่นเห็นแปลกหน้า พาพวกมากระซิบ “อยากมีเรื่อง” แล้วลงมือใช้มีดดาบฟัน ใช้หม้อหุงข้าวในบ้านทุบซ้ำ เจ้าของบ้านครวญโทรแจ้งตำรวจ ตี 1 ได้รับคำตอบ “ไม่ใช่เหตุการณ์ซึ่งหน้า”
วันที่ 3 ก.พ. 67 น. น.ส.วรรณา น้อยจุฬา อายุ 48 ปี และนายอรรนพ หรืออ้น มะลิซ้อน อายุ 26 ปี อยู่บ้าน ใน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อิทธนันต์ บุตรสุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ถูกวัยรุ่นมารุมทำร้ายถึงบ้านจนได้รับบาดเจ็บอยากให้ตำรวจติดตามคนร้ายซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านมาดำเนินคดี
นายวารินทร์ เลือกชัย อายุ 30 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ตนขับรถไปรับนายอรรนพที่บ้าน ในตัวอำเภอห้วยราช มานั่งดื่มสังสรรค์กันที่บ้านของตน โดยนั่งกินกันไปคุยกันไปเรื่อย ๆ
จนถึงเวลาประมาณ 00.30 น. ได้มีนายแฮม วัยรุ่นในหมู่บ้าน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วเดินเข้ามาหาตน จึงถามไปว่ามาทำอะไร ได้รับคำตอบจากนายแฮมว่า “อยากมีเรื่อง” ตนซึ่งตอนนั้นกำลังเมาเคลิ้ม ๆ จึงไล่ออกจากบ้านไป ประมาณ 10 นาที นายแฮมกลับมาอีก คราวนี้มีวัยรุ่นอายุประมาณ 18 - 23 ปี มาด้วยกัน 6 คน จากนั้นได้กรูเข้ามาใช้มีดดาบฟันนายอ้นเพื่อนของตนที่นั่งด้วยกัน ส่วนวัยรุ่นที่เหลือใช้ทั้งไม้และกำปั้นรุมทำร้ายนายอ้นเพียงคนเดียวโดยไม่สนใจจะทำร้ายตน ส่วนสาเหตุไม่ทราบมีเพียงนายอ้นเป็นคนแปลกหน้าเท่านั้น
ขณะที่นายอ้น คนถูกทำร้ายเล่าว่า ตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับมาช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังไม่ได้กลับไปทำงาน พอดีมีนายวารินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ขี่รถไปรับเพื่อมานั่งดื่มกันส่วนผู้ก่อเหตุทั้งหมดตนไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ด้าน น.ส.วรรณา น้อยจุฬา แม่ของนายวารินทร์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนซึ่งนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงดังจึงลุกขึ้นมาดู เห็นนายอ้นถูกนายแฮมกับพวกหลายคนรุมทำร้าย พยายามห้ามแล้วไม่มีใครสนใจ ไม่หนำใจกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นยังยกเอาหม้อหุงข้าวของตนเองไปทุบหัวนายอ้นจนสลบแน่นิ่งไป ก่อนจะขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ไปติดที่ตำรวจภูธรจังหวัด โดยได้มีการโอนสายไปยัง สภ.กระสัง เมื่อตนแจ้งทางโทรศัพท์ไปได้รับคำตอบจากตำรวจ สภ.กระสังว่า “ไม่ใช่เหตุการณ์ซึ่งหน้า” แล้ววางสายไปก่อนจะพาตัวนายอ้นซึ่งถูกฟันที่แขนซ้ายกระดูกร้าวและถูกฟันที่แผ่นหลัง ยอมรับน้อยใจที่แจ้งความแล้วตำรวจไม่สนใจ
