เจ้าของไอเดียกางเกงแมวโคราช ไม่หวั่นสินค้าจีนเลียนแบบ ชี้สินค้าดีเด่นดังถูกเลียนแบบเป็นเรื่องธรรมดา แต่ของแท้ต้องผลิตที่ไทย เผยโคราชได้ประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก มูลค่าการตลาดประเมินไม่ได้
จากกรณีที่กางเกงช้าง กางเกงแมว ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ไทย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซื้อไปสวมใส่กันเป็นจำนวนมาก กลายเป็นกระแสนิยมโด่งดังไปทั่วโลก จนมีพ่อค้าชาวจีนหัวใสนำไปผลิตที่โรงงานในประเทศจีน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า แล้วนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยว ตามตลาดนัดหรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยมีราคาต่ำกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยอย่างมาก จนเป็นกระแสดรามาเรื่องลิขสิทธิ์ และผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับน้อยกว่าคนจีนอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2567) นายภพ ไตรบัญญัติกุล กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธุรกิจต่างประเทศและการลงทุน เจ้าของไอเดียโครงการประกวดลาย “โคราชโมโนแกรม” ซึ่งได้นำผลงานชนะเลิศจากการประกวดมาทำเป็นกางเกงแมวต้นแบบเป็นคนแรก จนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวแล้วมองว่าในโลกยุคทุนนิยม การที่สินค้าชนิดใด มีคุณภาพดี เด่น ดัง ก็ย่อมเป็นเป้าหมายของคนที่จะนำไปลอกเลียนแบบเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้ไปลดทอนคุณค่าสินค้าของแท้ได้ ซึ่งลาย “โคราชโมโนแกรม” ที่นำไปทำเป็นกางเกงแมว ก็เช่นกัน ถ้าเป็นของแท้ต้องผลิตจากเมืองไทยเท่านั้น จึงจะได้คุณภาพที่ดี ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ เราได้จดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว เพื่อป้องกันการแอบอ้าง และให้การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ไว้ แต่การนำไปใช้ เราเปิดให้ทุกคนสามารถโหลดลายนี้ไปใช้ทำสินค้าได้โดยเสรี ไม่หวงลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ดังนั้นจะเป็นคนไทยหรือคนจีน ก็สามารถนำไปใช้ผลิตสินค้าได้ ซึ่งส่วนนี้ก็ยอมรับว่าจีนมีต้นทุนที่ถูกกว่าไทยอยู่แล้ว แต่คุณภาพจะสู้ของไทยไม่ได้
ตนเองมองว่าทุกอย่างมีได้ก็ต้องมีเสีย เรื่องกางเกงแมวก็เช่นกัน ตนเชื่อว่าเราได้มากกว่าเสีย เพราะวัตถุประสงค์หลักของลายโคราชโมโนแกรม โฟกัสไปที่การประชาสัมพันธ์จังหวัดเป็นหลัก โดยลวดลายจะมีการออกแบบจากของดีที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เช่น ซุ้มประตูเมือง กำแพงเมือง ฐานตั้งอนุสาวรีย์ย่าโม แมวสีสวาด ผัดหมี่โคราช และดอกสาธร ที่เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมา ดังนั้นคนที่สวมใส่กางเกงแมวก็จะมีลวดลายเหล่านี้ติดตัวไปด้วย และถ้าเขาอยากรู้ว่ามันเป็นลายอะไร ก็จะได้ค้นหาและในที่สุดก็จะรู้ว่าแต่ละลายมีความหมายว่าอะไร อยู่ที่ไหน สิ่งเหล่านี้ประเมินเป็นมูลค่าทางการตลาดที่สูงมาก ที่จังหวัดนครราชสีมาจะได้รับกลับมา ซึ่งในอนาคตทางหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้นำลวดลายเหล่านี้ มาพัฒนาต่อยอดให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ใช้ทำสินค้า หรือบริการอื่น ๆ ต่อไป