บิ๊กต่าย แจงทหาร เหยื่อรับน้องโหด เผาอวัยวะเพศ จนบาดเจ็บสาหัส มี 1 ตำรวจสิบโทเอี่ยว เตรียมเอาผิดวินัย
จากกรณีที่ ส.อ.พิษณุ (ขอสงวนนามสกุล) ถูกรุ่นพี่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี กว่า 20 คน รุมทำร้ายร่างกาย จากการเข้ารับน้อง ด้วยการรุมเตะต่อย ใช้สเปรย์พ่นสีแล้วจุดไฟแช็คพ่น ทำให้เกิดประกายไฟพุ่งแล้วเผาตามร่างกายและอวัยวะเพศ จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนปล่อยตัวออกมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ค.66 เวลาประมาณ 18.00 น. เดินทางแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 66 ผ่านไป 6 เดือนคดีไม่คืบหน้านั้น
วันที่ 7 ก.พ. 67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ได้ร่วมประชุมความคืบหน้าคดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวทางตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีได้มีมาตรการเข้มงวด เรื่องงานป้องกันและปราบปรามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุลักษณะนี้อยู่แล้ว ในเรื่องประเด็นที่คดีมีความล่าช้า ทางตำรวจได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายเมื่อเดือน ก.ค. 66 ก็ได้สอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมดำเนินขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนจน กระทั่งรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด 19 คน ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ดำเนินการเรียกตัวผู้ก่อเหตุก็มารับทราบข้อกล่าวหาทุกคนแล้ว ซึ่งในระยะเวลาที่ทำการผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหานั้นมีการผลัดวันเวลามาสอบสวน รวมถึงทางผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทางตำรวจจึงทำการปล่อยตัวผู้ต้องหาตามป.วิอาญา ซึ่งขณะนี้สำนวนอยู่ระหว่างให้ทาง ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ตรวจสำนวนสอบสำนวน หากไม่มีอะไรเพิ่มเติมพยานหลักฐานครบถ้วน ต้องไม่มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ทางตำรวจก็จะนำสำนวนส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนในกรณีที่มีการเปิดเผยจากผู้เสียหายว่า 1 ในผู้ก่อเหตุทั้งหมด 19 คน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย เป็นเรื่องจริงแล้วได้มีการตรวจสอบไปยังต้นสังกัดเรียบร้อยโดยมีชื่อว่า ส.ต.ท.ภาคภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายอำนวยการ สังกัดกองบินตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็เพิ่งรับทราบข้อมูลจากสื่อว่ามีตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งในวันที่ทางพนักงานสอบสวนเรียกตัวตำรวจนายนี้มารับทราบข้อกล่าวหาได้ใช้ชื่อนำหน้าว่านายเป็นบุคคลทั่วไป ในฐานะผู้บังคับบัญชาในระดับสูง ต้องเรียนให้สื่อมวลชนทราบว่าถ้าข้าราชการตำรวจไม่รายงานตัวในการต้องคดีมีความผิดวินัย ซึ่งต้องรายงานตนต้องคดีภายใน 7 วัน ซึ่งภายในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนทราบว่าเป็นข้าราชการตำรวจแล้ว ตอนนี้ก็ได้ทำบันทึกแจ้งไปทางต้นสังกัดของตำรวจนายนั้นตามขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้ให้การช่วยเหลือกับตำรวจรายนี้แต่อย่างใด
ส่วนประเด็นที่ทางผู้เสียหายนำเรื่องมาร้องสื่อ เนื่องจากกลัวความปลอดภัย เพราะตำรวจได้ปล่อยตัวให้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดออกมาก่อคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนเสียชีวิต 2 ราย ตนขอชี้แจงว่า ในกรณีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 เรื่อง 2 คดี เรื่องแรกคือเรื่องของการรับน้องโหดทำร้ายร่างกายซึ่งเหตุเกิดเมื่อเดือนก.ค. 66 ทางพนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่างรวบรวบพยานหลักฐานตามกระบวนการสอบสวน ซึ่งในการรวบรวบพยานหลักฐานให้เสร็จสิ้นรวดเร็วนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะผู้ถูกกล่าวหามีเกือบ 20 คน
ส่วนอีกคดีคือเมื่อเดือน ส.ค. 66 มี 1 ใน 4 ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ก่อเหตุอุกฉกรรจร่วมกันฆ่าผู้อื่น ทางตำรวจก็ต้องแยกเป็นคนละคดีต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถสืบสวนจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 รายนี้ได้ที่ อ.ไชยยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้นำตัวมาดำเนินคดีตอนนี้ได้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้ไปแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 คน ในกรณีทำร้ายร่ายกายทหารรายนี้แล้วในเรือนจำ
เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ได้แจ้งข้อหากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 19 ราย โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ , ร่วมกันข่มชืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตราย ต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือของผู้อื่น หรือใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขึ้นใจ ต้องกระทำการนั้นกระทำโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกช่มขืนใจทำถอนทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิใด , พาอาวุธ(มีด)ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควร , ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ โดยผู้ต้องหาทั้งหมด 19 คนได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว แต่ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา