เรือนจำปัด นักโทษคดีเสพยาแหกคุก โบ้ยแค่หลงป่า 14 ชม. แม่รู้ข่าวเป็นห่วง หวั่นถูกซ้อม และถูกเพิ่มโทษ
จากกรณีที่สื่อโซเชียลหลายแห่งได้โพสต์ข้อความ และรูปภาพนักโทษระบุชื่อ นช.พงษ์ศักดิ์ เกียรติเจริญ แหกคุกออกจาก เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วง ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (7ก.พ.67) พร้อมประกาศแจ้ง หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เบอร์ 086-2513751 และยังมีการระบุว่าเป็นบุคคลอันตราย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังหมายเลขดังกล่าว คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงรับสาย พร้อมกับตอบมาว่ากำลังดักซุ่มรอจับตัวนักโทษที่หลบหนีอยู่กลางป่า ภายในเรือนจำโคกคำม่วง ซึ่งมีพื้นที่ป่ากว่า 300 ไร่ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบ แต่ระหว่างทางทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนักโทษชายได้แล้วเมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน
จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของการหลบหนีของนักโทษกับเจ้าหน้าที่ กลับได้คำตอบว่าเป็นการเข้าใจผิด นักโทษไม่ได้หลบหนี แต่นักโทษได้หลงป่าเท่านั้น พร้อมกับไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ อีก
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขอทราบรายละเอียดถึงสาเหตุการหลบหนีของนักโทษจากนายจิรวุฒิ ปุญญาสวัสดิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่พบว่านายจิรวุฒิไม่สะดวกให้เข้าพบ มีเพียงเลขาฯหน้าห้องมาแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน ไม่มีนักโทษที่หลบหนีหรือแหกคุกแต่อย่างใด ทั้งยังไม่ได้ให้ข้อมูลชื่อที่อยู่ และสถานะของนักโทษคนที่หลบหนีแต่อย่างใด
กระทั่งผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลสถานะและภูมิลำเนาของนักโทษคนที่แหกคุกรายนี้จากแหล่งข่าว ทราบว่าเป็นนักโทษ ถูกจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1ประเภท2และประเภท5 ที่สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จึงเดินทางไปยังภูมิลำเนา ต.ยางตลาดอ.ยางตลาดจ.กาฬสินธุ์ พบกับ นางละมุล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี รับว่าเป็นมารดา นช.พงษ์ศักดิ์ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 10.00 น.เจ้าหน้าที่เรือนจำโคกคำม่วงได้มาแจ้งให้ตนทราบว่าบุตรชายซึ่งถูกจองจำอยู่เรือนจำชั่วคราวโคกคำม่วงได้หลบหนีระหว่างพาไปตัดไม้ที่ป่าภายในพื้นที่ของเรือนจำ พร้อมกับสอบถามตนว่าลูกชายหลบหนีมาซ่อนตัวที่บ้านหรือไม่ ตนจึงตอบไปว่าไม่ได้เดินทางมา
หลังจากทราบเรื่องก็มีความรู้สึกเป็นห่วงบุตรชายเป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำจับตัวได้ อาจจะถูกซ้อมและได้รับการเพิ่มโทษ ทำให้เป็นกังวลและรู้สึกเป็นห่วงบุตรชายมาก เนื่องจากบุตรชายของตนเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปี และมีการป่วยด้วยจิตเวช ต้องรับประทานยาระงับอาการป่วยจากแพทย์มาโดยตลอด แต่เมื่อถูกจับดำเนินคดีบุตรชายของตนก็ไม่ได้รับประทานยาแต่อย่างใด
นางละมุล ยังได้บอกอีกว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาบอกว่าพบตัวแล้ว ใช้เวลาปิดล้อมตรวจค้นนานร่วม 14 ชั่วโมง โดยบอกว่าบุตรชายของตนหลงป่า ตนจึงคลายความกังวลลงได้บ้าง แต่ก็ยังเป็นห่วงบุตรชายอยู่ดี
ส่วนสาเหตุที่หลงป่านั้นอาจเป็นเพราะว่าบุตรชายของตนอาจคิดถึงตนจึงคิดหลบหนีแต่อาจหาทางออกไม่เจอ เนื่องจากป่าภายในเรือนจำโคกคำม่วงมีพื้นที่กว่า 300 ไร่จึงอาจจะหาทางออกไม่พบ จึงทำให้เดินหลงป่าก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก็ได้ทราบข้อมูลว่าตอนแรกทาง สภ.ได้รับแจ้งจากเรือนจำฯว่ามีนักโทษหลบหนี แต่หลังจากนั้นก็รายงานมาใหม่ว่าเป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นนักโทษหลงป่า ไม่ได้หลบหนี