แม่ใหม่ ไม่ติดหากต้องแบ่งเงินประกันให้ พร งงตัวละครผู้ชายเพิ่มเรื่อยๆ

ตร.เรียก แม่ใหม่ ให้ปากคำเพิ่ม หลังพบบางคนให้การไม่ตรงกัน แม่ใหม่ เผย ไม่ติดหากต้องแบ่งเงินประกันให้พร แต่พรต้องมาแสดงความรับผิดกับแม่

วันนี้ (8 ก.พ. 67) ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่ามัดมือ นายใหม่ หนุ่มโรงงาน ที่ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา วันนี้แม่ของนายใหม่ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ หลังพบบางคนให้การไม่ตรงกัน โดยแม่ของนายใหม่ หนุ่มโรงงานผู้เสียชีวิตได้เล่าถึงเรื่องเงินประกันที่บริษัทของใหม่ ว่า แม่ทราบดีอยู่แล้วเพราะทุกบริษัทเขาต้องมีทำ และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ใหม่โทรมาขอข้อมูลของแม่เพื่อกรอกเอกสารเป็นผู้รับผลประโยชน์ในเงินประกัน แม่กับใหม่ยังหยอกล้อพูดเล่นกันเรื่องแบ่งสมบัติกันอยู่เลย ส่วนประกันชีวิตอื่นๆที่ใหม่ทำเพิ่มเติมนั้น แม่ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรบ้าง แต่ใหม่เคยบอกว่าใหม่ทำให้แม่ และแม่ก็ต้องได้รับผลประโยชน์จากใหม่ ส่วนเรื่องที่พรจะได้รับผลประโยชน์จากการทำประกันนั้น ใหม่ไม่เคยพูดให้แม่ฟัง แต่แม่ก็เชื่อว่าเขาทั้งสองน่าจะรู้กัน เพราะเป็นผัวเมียกัน ส่วนพรจะทราบหรือไม่ว่าใหม่มีประกันแม่ก็เชื่อว่าน่าจะรู้เพราะเขาอยู่ด้วยกัน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการยื่นเอกสารในการรับประโยชน์นั้น แม่ใหม่บอกว่า ทางบริษัทของใหม่ได้มาพบกับแม่แล้ว ได้ทำการชี้แจงให้แม่ทราบ ว่าแม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม คือ สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ส่วนเอกสารของใหม่ มีครบหมดแล้ว ส่วนจะมอบให้พรตามความตั้งใจของใหม่หรือไม่นั้น แม่ก็ต้องดูว่าเขาจะเข้ามารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำไว้กับใหม่หรือไม่ หากเขามาแสดงตัวกับแม่และยอมรับผิด หรือเขาอยากจะได้แม่ก็จะให้เขาในส่วนที่เป็นของเขา เพราะแม่ไม่ได้คิดว่าจะเอามาคนเดียว เพราะตัวพรเองก็เคยพูดกับแม่ว่าในส่วนของแม่ก็ไม่ยุ่ง พรเคยพูดกับแม่ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน แม่ก็เลยบอกกับเขาไปว่ายังไม่ต้องพูดเรื่องเงินได้หรือไม่ ขอให้จัดเรื่องงานศพลูกแม่ให้เสร็จสิ้นก่อน

ก่อนหน้านี้พรก็นำเอกสารมาให้แม่เซ็นที่บอกว่าจะเดินเรื่องเอง กลัวว่าแม่จะลำบากเดินทาง แต่แม่ยังไม่ได้นำเอกสารไปให้เขา เพียงแค่เซ็นเฉยๆ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นโมฆะและไม่สมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ แม่ใหม่บอกด้วยว่า หลังเป็นข่าว แม่เองก็ไม่รู้ว่าพรไปอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องที่พรขอให้นายนนท์ หัวหน้างานช่วยมาเป็นพยานในการปฏิเสธว่าพรไม่รู้จักรถยนต์คันที่กิตนำมาก่อเหตุนั้น ประเด็นนี้แม่ไม่รู้เลย ก็ปล่อยให้ตำรวจได้ทำคดีต่อไป แม่ไม่คิดอะไรหรอก แม่ก็อยู่ของแม่แบบนี้ เพราะใหม่กับแม่ไม่ค่อยได้อยู่ แต่หลังจากเกิดเหตุแล้ว ก็ยังคิดเหมือนกันว่าทำไมถึงมีตัวละครผู้ชายเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีแค่ใหม่คนเดียว ก็คงต้องปล่อยไปตามให้ตำรวจจัดการ

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ ทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี กรมธรรม์ประกันชีวิตของนายใหม่ ที่จะได้รับหลังเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม พบว่า ผลประโยชน์จากกรมธรรม์ จากการสอบถามน้องสาวของนายใหม่ทราบว่า นายใหม่ไม่ได้ทำประกันชีวิตส่วนตัวเพิ่มเติมไว้ ส่วนที่ให้ข้อมูลว่า นายใหม่ เพิ่งจะทำประกันชีวิตกรมธรรม์ใหม่ ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ทราบว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แท้จริงแล้วเป็น ประกันชีวิตกลุ่มของบริษัท ที่ทำให้พนักงานเป็นรายปี ซึ่งทุกปีจะมีวงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท

โดยเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2566 นายใหม่ ได้เพิ่มผู้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้ให้แม่ครึ่งหนึ่ง จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้แม่ทราบ แม่จึงเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า เพิ่งทำประกันชีวิตส่วนตัวฉบับใหม่ จึงทำให้ผลประโยชน์ที่จะได้รับทั้งหมดนั้น มาจากบริษัท

ต่อมาตำรวจ ประสานกับหัวหน้างานเพิ่มเติม ได้รับการยืนยันว่า ยอดเงินทั้งหมด รวมกันอยู่ที่ 500,000 – 600,000 บาท (รวมประกันชีวิตที่กล่าวถึงข้างต้นด้วย) ซึ่งอยู่ระหว่างการคิดคำนวณยอดที่แน่ชัดของทางบริษัท แบ่งแยกย่อยได้ดังนี้

1. เงินช่วยเหลือ (คำนวณตามอายุงาน) จำนวน 160,832 บาท
2. กองทุนฌาปนกิจ จำนวน 132,700 บาท

3. ประกันชีวิต 100,000 บาท
4. เงินเดือน เดือนสุดท้าย งวดต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่ทราบจำนวน

5. เงินโบนัส ครึ่งปีแรก 2567 ยังไม่ทราบจำนวน
ซึ่งรายการที่ 1 – 5 นั้นแบ่งผู้รับผลประโยชน์ 2 คน คือ มารดา และภรรยา

ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (คำนวณตามเงินสะสม และ เงินสมทบ) ระบุผู้รับผลประโยชน์ 1 คน คือ ภรรยา ซึ่งหากรวมรายการทั้งหมดพอสังเขป อยู่ที่ประมาณ 500,000 – 600,000 บาท.