จากกรณีนายที หนุ่มคนงานชาวกัมพูชา ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง
น.ส.พรพรรณ หรือ”เจ๊สั้น” แสนประสิทธิ์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของแผงผักรายใหญ่ที่สุดในตลาดไท เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 72/49 ภายในหมู่บ้านพระปิ่น 7 เฟส 4 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หนุ่มลูกจ้างโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายไล่ออกจากงาน หลังจับได้ว่าแอบขโมยเงิน
ล่าสุด( 24 เมษายน 2560)
พลตำรวจตรีธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นำตัว นายนทีหรือที อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นลูกจ้าง
ใช้อาวุธมีดฆ่าชิงทรัพย์ นางพรพรรณ แสน ประสิทธิ์ หรือเจ๊สั้น อายุ 42 ปี เจ้าของแผงขายผักในตลาดไท อย่าง
โหดเหี้ยมมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายทีรับสารภาพว่า ทำงานอยู่กับเจ๊สั้นมาประมาณ 3 ปีเศษ ได้รับค่าจ้างวันต่อวันถูกไล่ออกมาแล้ว 6-7 วัน ในวันเกิดเหตุตั้งใจจะเข้ามาคุยกับเจ๊เพื่อขอทำงานแต่ไม่พบเจ๊ จึงขึ้นไปค้นทรัพย์สินบนบ้าน กลับเข้ามาเห็นก่อนพร้อมกับพยายามเรียกให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือ จึงนำมีดที่พกติดตัวมาด้วยออกพยายามจะแทง แต่เกิดการยื้อแย่งจนเจ๊สั้นโดนแทง ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุครั้งนี้เพราะ
ถูกไล่ออกเนื่องจากหยุดงานบ่อย และไม่บอกกล่าว ซึ่งตนได้รับความไว้วางใจจากเจ๊สั้นให้เข้าออกบ้านได้หลายครั้งเพื่อเข้ามาเอาของ นายทีผู้ต้องหา บอกอีกว่า
ถูกเจ๊สั้นด่าว่าค่อนข้างบ่อย และเจ๊เป็นคนดุ จึงทำให้ตัดสินใจ
ลงมือฆ่า จากนั้นนายที ก็ได้ขึ้นรถทัวร์กรุงเทพ-อรัญประเทศ เพื่อหลบหนีหวังออกนอกประเทศ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ขณะลงจากรถ
หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอดู โดยระหว่างการทำแผน
น.ส.ชมภัคมนธฑ์ แสนประสิทธิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็น
ลูกสาวผู้ตาย ได้
ตะโกนด่าทอนายที ผู้ต้องหาด้วยอารม
โกรธแค้น ทั้งน้ำตา ว่าทำ
"ฆ่าแม่กูทำไม ตลอดเวลาแม่เลี้ยงดูมาอย่างดีทำไมต้องทำแบบนี้"
ด้าน
พลตำรวจตรีธนายุตม์ เปิดเผยหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นว่า หลังจากนี้จะคุมตัวผู้ต้องหากลับไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหลวง ให้ครอบคลุมทุกประเด็น รวมถึงสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ว่ามูลเหตุมาจาก และจะมีการเร่งระดมกวาดล้างครั้งใหญ่ เพื่อจัดระเบียบให้อยู่ในกรอบ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก
