ตํารวจและอัยการ แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย คดี 140 ล้าน คาดสรุปสํานวนไม่เกิน 2 เดือน
วันนี้ (12 ก.พ. 67) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน คดีตำรวจรีดทรัพย์เว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนเเละคณะพนักงานสอบสวน เดินทางมายังตํารวจภูธรภาค 1 หลังนัดกลุ่มผู้ต้องหามาเพื่อเเจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
โดย นายวัชรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า การแจ้งข้อกล่าวหาม พ.ร.บ.อุ้มหายในวันนี้ สืบเนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างอัยการจากสํานักงานอัยการสอบสวน ซึ่งเป็นผู้กํากับตรวจสอบการสอบสวนตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งมีการตรวจสอบพบว่ามีพยานหลักฐานยืนยันว่ามีกลุ่มที่จะต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย จึงออกหมายเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แบ่งเป็นกลุ่มของอดีตผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดชลบุรี จํานวน 17 คน และกลุ่มของ นายบอย พัทยา หรือ เสี่ยบอย จํานวน 4 คน ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้จะไม่เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาซํ้ากับชุดทํางานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ดําเนินคดีไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องความผิดต่อเจ้าพนักงาน หรือ ม.157 แต่ยังไม่มีการแจ้งความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดทํางานจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาเป็น พล.ต.ท.อัคราเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.
นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้แจ้งข้อหาในล็อตแรก แต่คณะทำงานชุดปัจจุบันเห็นว่ามีความผิด จึงเรียกมาแจ้งข้อหาใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ 3 นาย และพลเรือนอีก 9 คน
นายวัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องหาจะทยอยเดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้และพรุ่งนี้ เนื่องจากมีจํานวนค่อนข้างเยอะ ส่วนวันนี้ใครจะเข้ามาบ้างนั้นไม่สามารถตอบได้ เพราะบางคนอาจจะขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตามได้เตรียมชุดพนักงานสอบสวนฝ่ายตํารวจและอัยการ สำนักงานการสอบสวนเข้าร่วมกันในการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว โดยจะไม่มีการสอบปากคําใดๆทั้งสิ้น เป็นการเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้มีอํานาจหน้าที่ในการสรุปสํานวนการสอบสวน โดยอัยการจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าเห็นด้วยหรือไม่กับความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องใครซึ่งต้องมีการปรึกษากับทีมอัยการสอบสวนด้วย
ทั้งนี้คาดว่าหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว คณะทำงานจะสรุปสำนวนเสนออัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตไม่เกิน 2 เดือน ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาว่าจะอ้างพยานหลักฐานใดให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าการร้องขอความเป็นธรรมทุกเรื่อง คณะทำงานจะต้องสอบสวนเพิ่มทั้งหมด ต้องพิจารณาว่าพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ด้วย ส่วนกรอบระยะเวลาไม่มีเพราะผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในอํานาจฝากขังของศาล จึงทําให้อัยการมีเวลาในการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องมากขึ้น.