เกินกว่าเหตุไหม?ครูโหด กระหน่ำตีเด็กนักเรียน 27 ราย ก้นช้ำ-ไข้ขึ้น เหตุไม่ช่วยกันทำความสะอาด

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิสั่งสอบครูโหด ตีเด็กนักเรียน 27 ราย ก้นช้ำ-ไข้ขึ้น เหตุเพราะเด็กไม่ช่วยกันทำความสะอาด

จากกรณีครูโหดใช้ด้ามไม้กวาดตีก้นนักเรียน ป.4-ป.6 เรียงคิวกว่า 27 คนที่บริเวณหน้าเสาธงภายในโรงเรียนดังแห่งหนึ่งที่ชัยภูมิเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.67 ที่ผ่านมา จนนักเรียนที่ถูกตีจำนวน 27 คนบาดเจ็บไม่สบายและบางรายถึงกับไข้ขึ้น

ล่าสุด นายนายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกนายธีระศักดิ์ ผอ.สพป.เขต 1 ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายพลากร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ เข้าชี้แจงที่ห้องทำงานศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าหลังเกิดเหตุกรณีดังกล่าวได้รับรายงานว่าครูชายรายนี้ยอมรับผิดว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งให้ สพป.ชัยภูมิเขต 1 ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งพบว่ามีเด็กที่ถูกครูตีในครั้งนี้มีทั้งหมด 27 คนและเด็กทั้งหมดได้กลับไปเรียนหนังสือตามปกติแล้ว โดยครูลงโทษเด็กจริงเพราะไม่ยอมช่วยกันทำเวรทำความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียน ซึ่งถือว่าครูใช้ความรุนแรงทำโทษเด็กนักเรียนเกินกว่าเหตุซึ่งเป็นการกระทำผิดระเบียบกระทรวงศึกษาที่กำหนดข้อห้ามครูลงโทษเด็กนักเรียนโดยการเฆี่ยนตีนักเรียนอย่างเด็ดขาด

ในเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการลงโทษเด็กนักเรียนรุนแรงแบบนี้อีกต่อไปจึงได้ให้สั่งให้ สพป.เขต 1 ชัยภูมิ ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้ทางจังหวัดได้ทราบโดยด่วน พร้อมหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ได้อีกต่อไป ในส่วนสภาพจิตใจเด็กนักเรียนที่ถูกตีทั้งหมดในขณะนี้ ทางจังหวัดได้ส่งหน่วยงานนักจิตวิทยาเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิและเจ้าหน้าที่ สพป.ชัยภูมิเขต 1 ได้เข้าไปตรวจสอบเยี่ยมเด็กผู้ปกครองและญาติในครอบครัวทุกรายทั้งหมดแล้ว นอกจากนั้นยังให้ผู้อำนวยการโรงเรียนนำคณะครูอาจารย์เข้าไปเยี่ยมเยียนขอโทษพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กทั้งหมด 27 คน ขณะนี้เด็กนักเรียนทั้งหมดสามารถเดินทางไปเรียนหนังสือได้ตามปกติทั้งหมดแล้วซึ่งต่อไปทางจังหวัดฯจะได้กำชับให้ทุกโรงเรียนได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงลงโทษเด็กนักเรียนแบบนี้เกิดขึ้นได้อีก

นางสาวนัฏฐิกา เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการกิจการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางรุดเยี่ยมให้กำลังใจเด็กและผู้ปกครองถึงบ้านพักพร้อมรับปากพ่อแม่ผู้ปกครองว่าจะเร่งนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้คณะกรรมาธิการกิจการเด็กฯ ได้รับทราบและลงมาให้การช่วยเหลือเป็นการด่วนพร้อมกำชับให้ ผอ.โรงเรียนแล้ว พร้อมแจ้งให้ ผอ.ได้กำชับคุณครูเรื่องระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 ด้วย

ด้านนางสาวปัทมวรรณ ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้น ป.4 ที่ถูกครูทำโทษ กล่าวว่า ครูรายดังกล่าวเป็นคนดีขยันทำงานเป็นทั้งภารโรงและครูในคนเดียวกัน ซึ่งต่อมา ผอ.ได้นำครูรายดังกล่าวมาพบที่บ้านเพื่อขอโทษแล้วและผู้ปกครองได้กำชับไปว่าอยากให้ครูรายดังกล่าวได้ปรับตัวและการลงโทษเด็กมีหลายวิธีอยากให้มีการตัดคะแนนก่อนจะมีการลงโทษในครั้งต่อไป เพราะลูกใครใครก็รักจึงอยากไม่ให้ทำแบบนี้อีกต่อไป