พ่อแม่ใจสลาย! โรงพยาบาลทำลูกในท้อง 9 เดือนดับ เจ็บท้องเลือดออกเหมือนจะคลอด ดันไล่กลับบ้าน พยาบาลบอกปากมดลูดยังไม่เปิด
วันที่ 13 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ว่า ทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทำลูกในท้อง 9 เดือนเสียชีวิต ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง
พร้อมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เรียกร้องความเป็นธรรม โดยระบุว่า “รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับ เพื่อลูกผมที่จากไปตลอดกาล สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นจริงในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอที่เมียผมฝากท้อง เมียผมกำลังตั้งท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ในวันที่ 8 ก.พ. เวลาประมาณตี 3-4 กลางคืน เมียเจ็บท้องเลือดออก ผมก็เลยขับรถมาส่งเมียที่โรงพยาบาลเเห่งนั้น ส่งถึงห้องคลอดปกติ พยาบาลเป็นคนตรวจปกติ ปากมดลูกยังไม่เปิด หัวใจลูกยังเต้นอยู่ปกติ เเต่เลือดออกมา”
“เมียก็เจ็บท้องเหมือนคนจะเกิดยัง ยังไม่ถึง 10 นาที พยาบาลให้เมียกลับ ทั้งที่เจ็บท้องเตือนอยู่ เลือดออกอยู่ เพียงให้เหตุผลว่า ปากมดลูกยังไม่เปิด พยาบาลกับเมียเดินออกมาหน้าประตูบอกว่าให้กลับไปก่อน มันเเค่เตือน แล้วพูดว่าให้เจ็บเเบบเหมือนสุดๆจริงๆ เจียนจะหลุดแบบนั้นค่อยมา ไปถามคนเเก่ดูว่าเจ็บยังไง ถึงจะเกิด แล้วเมียผมยืนเจ็บท้อง เหมือนคนจะคลอด เลยถามต้องเจ็บกว่านี้อีกหรอนี้ ยังไม่พอหรอ โอเคผมพากลับ”
“บ้านเลือดก็ยังไหลอยู่ เจ็บเตือนอยู่เเบบนั้น ผมกับเมียก็ทำตามที่พยาบาลเเนะนำทุกอย่าง เฝ้าอาการดูจนพลบคํ่าก็ยังเจ็บอยู่ เหมือนคนจะนับเวลาตามที่พยาบาลสั่งทุกอย่าง จนมา 4-5 ทุ่ม เริ่มเจ็บแบบถี่จัด ตัดสินใจมาถึงโรงพยาบาลอีกครั้งตี 1 –ตี 2 ครึ่ง หมอก็ยังไม่ตรวจเช็ก จนที่สุดบอกว่าลูกผมไม่อยู่ เขาจึงตามหมอขึ้นมา ผมนั่งอยู่ ผมใจไม่ดีแล้ว จนเมียโทรมาหาผมว่าลูกผมไม่อยู่แล้ว หัวเข่าผมแทบสุดใจสลาย ลูกสาวผมจากผมไปแล้ว แล้วหมอบอกเมียผมว่าทำไม่มาตอนที่เจ็บท้อง”
“คือพวกคุณไล่เมียผมกลับไม่ใช่หรอ ว่าไปดูอาการที่บ้าน แล้วมาพูดแบบนี้ ตอนที่ลูกผมไม่อยู่แล้ว นี่คือสาเหตุที่ติดใจ คือคนอื่นนอนได้ เมียผมนอนไม่ได้ ทั้งที่เจ็บเหมือนคนจะคลอด เลือดออก คุณเช็กอาการแค่ 10 นาที ทำไมคุณไม่เช็กอาการให้ละเอียดกว่านี้ แล้วบอกถ้าเจ็บๆ เตือนๆ ไม่ต้องมาไล่ให้กลับให้เร็วๆ คุณไม่มีหัวใจเหรอ นอนสักคืน 2 คืน เช็กอาการละเอียดกว่านี้”
“ท้ายที่สุดลูกผมจากไปตลอดกาล หัวใจผมแทบสลาย ลูกผมตายใครจะรับผิดชอบ #ลูกผมต้องไม่ตายฟรี”
ล่าสุดที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายฮานาฟี หมีนเส็น อายุ 39 ปี ทนายความ อ.จะนะพร้อมด้วย นายสิทธิฉัตร อายุ 26 ปี น.ส.ฮารีนา อายุ 24 ปี และครอบครัวเข้าพบ นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อเข้ามอบหนังสือและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทางครอบครัว กรณีทางโรงพยาบาลทำลูกในท้องเสียชีวิต
นายฮานาฟี เปิดเผยว่า ทนายได้รับการประสานจากผู้เสียหาย กรณีใช้บริการคลอดบุตร และทางโรงพยาบาลได้ทำบุตรในท้องเสียชีวิต ขณะที่ไปใช้บริการ มีอาการปวดท้องจากการตั้งครรภ์ อายุครรภ์ครบ 9 เดือนแล้ว และจะมีการคลอดบุตรในวันที่ 19 ก.พ. 67 และเมื่อวันที่ 8 ก.พ. มีอาการปวดท้องหนัก และมีเลือดไหล ซึ่งไม่มีเรี่ยวแรงมาก ทรมานอยู่ทั้งวัน
ทางพยาบาลไม่มีการปรึกษาแพทย์เวรของโรงพยาบาล ปรากฎว่าแพทย์เวรก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ก็ไม่รู้ว่าอยู่ๆ ตรวจเบื้องต้นเลือดก็ไหลอยู่ แต่ทำไมถึงให้กลับบ้านคือประเด็นแรก ส่วนประเด็นที่สองทางโรงพยาบาลมีคำสั่งให้รีเฟอร์ที่โรงพยาบาลสงขลา และระหว่างนั่งรถ ซึ่งทางคุณแม่ปากมดลูกเปิด เด็กในครรภ์กำลังคลอดออกมา แต่ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 2 คนนั่งไปด้วย กลับกลายเป็นว่าใช้มืออุดทารกกลับเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผิดธรรมชาติ และหลักวิชาชีพทางการแพทย์ เขาไม่ทำกันแบบนี้ และยังมีความเสี่ยงต่อผู้เป็นแม่ ครอบครัวขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านนายรุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องดังกล่าว ตนขอตรวจสอบก่อนว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาแจ้งไปยังทางสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ในฐานะดูแลโรงพยาบาลชุมชนทั่วจังหวัดสงขลาให้ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง พร้อมกำชับเรื่องบริการต่างๆ ของโรงพยาบาล ไม่ใช่เฉพาะโรงพยาบาลที่เกิดเหตุเท่านั้น จะกำชับทุกโรงพยาบาลใน จ.สงขลาทั้งหมด ส่วนเรื่องนี้ตนจะมีการนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัวที่รับผลกระทบ