ดรามาเวที มิสไชน่า ปัตตานีเดือด พิธีกรชื่อดัง แจงเหตุซัดกันนัว ลั่นโดนต่อยก่อน พร้อมขอโทษ ด้านนายกเทศมนตรีตั้งกรรมการสอบ
จากกรณีทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นภายในงานประกวดมิสไชน่า 2567 วันแห่งความรักของครอบครัว ที่ลานศิลปวัฒนธรรม อ.เมือง จ.ปัตตานี จนเปนที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายนั้น
ล่าสุดวันที่ 16 ก.พ. 67 นายปัญญา เทพเฉลิม นักสันทนาการชำนาญการ เทศบาลเมืองปัตตานี และเป็นพิธีกรชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอโทษและเสียใจต่อพี่น้องประชาชนชาวปัตตานี สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมด
ที่จริงอาจจะเป็นการเข้าใจผิด จริงๆ แล้วตนเองไม่ใช่เป็นคู่กรณีกับสาวประเภทสองดังภาพ ตนเป็นพิธีกร และเป็นผู้ดูแลงาน ที่ทางเทศบาลได้มอบหมายมา ทำหน้าที่พิธีกรตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว และช่วงเกิดเหตุคือ ช่วงประกวดมิสไชน่า ซึ่งมีการส่องไฟสปอตไลท์ ขึ้นมาบนเวที ทำให้ตนตาพร่า มองไม่เห็นเอกสารที่ต้องบรรยายบนเวที จนต้องยุติการพูด และเดินไปหลังเวทีชั่วคราว
หลังจากนั้นก็ทำหน้าที่พิธีกรจนจบ ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บของอยู่ก็มีไฟส่องขึ้นมาอีก ก็มีการตักเตือนจนมีปากเสียงเกิดขึ้น จากนั้นก็ชุลมุนวุ่นวาย ตนในฐานะผู้ใหญ่ได้ลงเข้าไปห้ามปราม แล้วก็เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ตัวเองเข้าไปห้าม ระหว่างที่กำลังเกิดเหตุ โดนต่อยและโดนดึงผม จึงต้องป้องกันตัวเอง ต่อยเข้าไป 2 ครั้ง ที่น้องผู้ชายตัวใหญ่ สวมเสื้อสีขาว
ส่วนน้องสาวประเภทสองที่เจ็บตัวนั้น ตนไม่ทราบจริงๆ ที่ตนต่อยผู้ชายคนนั้น เพราะเขาดึงผม ตนก็ต้องปกป้องศักดิ์ศรี ต้องขอโทษผู้เสียหายที่วันนั้นควบคุมเหตุการณ์ไม่ได้ทั้งหมด ส่วนตนก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับรายงานทางเทศบาล ส่วนทางด้านคดีก็พร้อมจะชี้แจงข้อมูลทุกอย่าง
ด้านนาย นิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอโทษสังคม เพราะเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น วันนั้นตนไปดูความเรียบร้อยหน้างานได้สักระยะ แล้วก็ออกจากงานไปก่อน มาทราบข่าวตอนเช้าก็ตกใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
เมื่อเกิดปัญหา ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ เป็นผู้บังคับบัญชาต้องดูข้อเท็จจริง ต้องเดินตามระบบกฎหมาย ถ้าไม่สามารถสร้างความยุติธรรมได้ จะเกิดความแตกแยก โดยตนได้เรียกนิติกรมาประชุมแล้ว เพราะเป็นเรื่องกระทบวงกว้าง ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผิดวินัยก็ต้องไปตามผิด ส่วนผลคดีก็ว่าไปตามกฎหมาย ตอนนี้ปัญหาไฟลามทุ่งของสังคมไปแล้ว กรณีดังกล่าวเป็นเคสตัวอย่าง เราไม่นิ่งนอนใจ ให้ทุกคนติดตามข้อเท็จจริง ยึดหลักระเบียบและกฎหมายเพื่อความเป็นธรรม
