3 ครอบครัวนั่งรถไฟกว่า 16 ชั่วโมง จากนครศรีธรรมราช ร้อง กัน จอมพลัง ลูกหลานถูกแก๊งเยาวชนรุมทำร้าย ตำรวจไม่รับแจ้ง อ้างคดีเด็กไม่อยากทำ
จากกรณี ชาวบ้านหลายครอบครัวพาลูกหลานนั่งรถไฟนานร่วม 16 ชั่วโมง หนีจาก นครศรีธรรมราช มาขอให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือ หลังทนพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นทะลุถุง ในจังหวัดไม่ไหว ดักทำร้ายเอามีดไล่แทงเด็ก ตอนกลางคืนขับรถไปตามหมู่บ้านเอาปืนออกมายิงชาวบ้าน แถมคนก่อเหตุเป็นลูกตำรวจในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวอะไร อีกทั้งหลังก่อเหตุไม่รู้ใช้วิธีไหน เอากล้องวงจรปิดในพื้นที่ออกมาโพสต์ลงสตอรี่ โชว์ว่าไปไล่กระทืบคนมา แถมชอบโพสต์โชว์ปืนเป็นประจำ เหยื่อถูกแทงทั้ง 2 เคส แจ้งความตำรวจเงียบ บอกเพียงเคสเด็กทำยาก
ทางด้านของ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองพาผู้เสียหายทั้งหมด 3 ครอบครัว เดินทางมาจากนครศรีธรรมราช ทั้ง 3 ครอบครัวเดินทางมาด้วยรถไฟทั้งหมด 16 ชั่วโมง เพื่อมาขอความเป็นธรรมให้กับลูกหลาน
เบื้องต้นตนเองได้ตรวจสอบแก๊งนี้ พบว่ามีสมาชิกทั้งหมด 40-50 คน แถมยังมีลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย โดยแก๊งทะลุถุงจะก่อเหตุไปเรื่อย ประกาศศักดา คอยไล่ยิง ไล่ฟัน เด็กในพื้นที่
หลังจากเกิดเหตุ คุณยายของผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า เป็นคดีเยาวชน จับตัวยาก ดำเนินคดียาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งหลานไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ทำให้คุณยายต้องเดินทางไปสถานีตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฎิเสธไม่รับแจ้งความ บอกให้ผู้ปกครองเด็กมาแจ้งความเอง
ตนจึงขอตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมถึงไม่ให้ความช่วยเหลือประชาชน อย่างน้อยรับเรื่องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกำนันในพื้นที่ ให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง
ตอนนี้ชาวบ้านและประชาชนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางมาหาตนเอง ตนจึงประสาน พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือ และหลักฐาน ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
โดยคุณแม่หนึ่ง ในผู้เสียหายได้เปิดใจ เล่าทีมข่าวฟังว่าวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00น. ลูกชายของเธอออกไปซื้อของที่ตลาดโต้รุ่งทุ่งสง อ. อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ จากนั้นกลุ่มนี้ก็ยิงปืนใส่ลูกชายของเธอ จากนั้นทั้งหมดก็ลงมามัดมือลูกชายของเธอและรุมทำร้าย ทั้งการใช้มีดฟันและใช้ปืนข่มขู่ ลูกชายของเธอได้ยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้โดนบริเวณศีรษะ จึงทำให้ถูกฟันเข้าที่มือจนเอ็นขาด และมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะข้อเท้า
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เธอได้ติดต่อไปทางห้างที่เกิดเหตุเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด แต่ทางห้างปฏิเสธอ้างว่าต้องให้ตำรวจเป็นคนมาขอ แต่เธอพบว่าทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมีคลิปกล้องวงจรปิดแล้วมาโพสต์ลงโซเชียลเป็นการยั่วยุ เธอจึงสงสัยว่าทำไมเด็กกลุ่มนี้ถึงได้กล้องวงจรปิดทั้งที่เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ครอบครัวของเธอต้องอยู่อย่างวาดกลัวเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังวนเวียนอยู่หน้าบ้านของเธอ
ด้านผู้เสียหายอีกคน เล่าให้ฟังว่า ลูกชายได้ไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และพบว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นเดินตามตลอดเวลาที่อยู่ในห้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร ต่อมาลูกชายก็ได้เดินลงมาที่ลานจอดรถ เพื่อที่เดินทางกลับบ้าน ในขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านนั้น ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ลงมาล้อมรถจักรยานยนต์ และรุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟันมาที่หลัง อีกทั้งยังขโมยเสื้อที่ลูกชายซื้อมาเอาไปอีกด้วย เคราะห์ดีที่ลูกชายของตนสามารถวิ่งหนีออกมาไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ทัน ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด มาโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งผู้เสียหายเคยไปถามหาจากห้างสรรพสินค้าและห้างสรรพสินค้าก็ไม่ได้ให้ไป พร้อมกับอ้างว่าต้องมีหนังสือขออนุญาตจากทางตำรวจมา แล้วกลุ่มก่อเหตุนำคลิปดังกล่าวมาจากไหน ทางห้างสรรพสินค้าก็น่าจะตอบว่าเดี๋ยวจะขอไปตรวจสอบก่อนว่าคลิปดังกล่าวใครเป็นคนเผยแพร่
นอกจากนี้หลังจากแจ้งความแล้ว ทางตำรวจกลับไม่ช่วยดำเนินการใด ๆ พร้อมกับบอกอีกว่า ทำไมเวลามีเรื่องต้องมาร้องให้ตำรวจช่วยเหลืออยู่ตลอด ทำไมไม่ไปหาผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนันบ้าง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ยังรู้สึกหวาดระแวง ขนาดได้ยินเสียงประทัดก็ยังทำให้รู้สึกหวาดกลัว
ขณะที่ผู้เสียหายคนสุดท้ายคุณยายอายุ 72 ก็เล่าให้ฟังว่า หลานชายของตนถูกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ไต ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน ซึ่งหลังก่อเหตุยายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ไล่ให้ยายไปตามหา พ่อ - แม่ของเด็กมาแจ้ง แต่ยายก็จนปัญญาเพราะพ่อ-แม่ เด็กทิ้งเด็กคนนี้ไว้ให้แกเลี้ยงตั้งแต่ 1 เดือน ทำให้ต้นรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทุกวันนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงชักชวนพรรคพวกมาชี้เป้าที่บ้านของตน และมาก่อความวุ่นวายใช้อาวุธปืนยิงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้สั่งการ ประสานทางผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้การนครศรีธรรมราชได้เรียกประชุมและทราบตัวของผู้ก่อเหตุหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจับกุม
ในส่วนของพนักงานสอบสวนที่ใช้วาจาไม่เหมาะสม จะทำการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากพบว่าผิดวินัยตำรวจจะดำเนินการทางด้านวินัยอย่างแน่นอน
ในส่วนของอาวุธไทยประดิษฐ์ที่นำมาโชว์ลงโซเชียล เบื้องต้นได้รับรายงานว่าตำรวจมีการจับกุมผู้ครอบครองแล้ว 1 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มาแล้ว 2 กระบอก
ในส่วนของผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ หากผู้ปกครองปล่อยปละละเลย ให้บุตรหลานออกมาก่อเหตุแบบนี้ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด.