เลขา ส.ป.ก.มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.โคราช รวม 6 คน เข้ากรุ เซ่นหมุดนิรนาม ผุดรุกป่าเขาใหญ่
วันที่ 19 ก.พ. 67 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุดที่ กษ1205/1074 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเรื่องขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ทับซ้อนป่าจำแนกฯป่าเขาใหญ่โดยมีเนื้อหาหนังสือว่า ตามที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อส.)ได้มีข้อพิพาทในเรื่องแนวเขตการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานในพื้นที่ทับซ้อนที่จำแนกฯป่าเขาใหญ่พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ต่อมาได้มีการลงตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน 3 หน่วยงาน คือกรมแผนที่ทหาร ส.ป.ก.และอส.เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 67 โดยกรมแผนที่ทหารแจะเจ้าดำเนินการสำรวจเส้นแนวเขตของทั้งสองหน่วยงานให้มีความถูกต้องชัดเจนซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ คาดว่าจะแล้วเสร็จนั้นในการนี้ ส.ป.ก.จึงขอความร่วมมือมายังท่านเพื่อโปรดแจ้งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาขอให้ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเส้นแนวเขตที่ชัดเจนเสียก่อน โดยท้ายหนังสือได้ลงชื่อนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการเปิดเผยจากนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.นครราชสีมาและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา รวม 6 คน ไปประจำการที่สำนักงานส่วนกลางเพื่อเปิดทางการสืบสวนข้อเท็จจริงประเด็นนี้ต่อไป
ล่าสุดวันนี้ 20 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าบรรยากาศที่ ส.ป.ก.นครราชสีมาเช้านี้ยังคงมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาทยอยเดินทางมายื่นเอกสารยืนยันสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งจะหมดเขตภายใน 17 ก.ค. 67 นี้นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางเข้ามายื่นเอกสารเพื่อขอเปลี่ยนสิทธิ์ที่ดินทำกินจาก ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรซึ่งยังคงมีประชาชนเดินทางเข้ามายื่นเอกสารอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าทางนายอัครเดชเรียนหิน ส.ป.ก.นครราชสีมายังไม่ได้เดินทางเข้าในที่ทำงานแต่ก็คาดว่าจะเข้ามาทำงานตามปกติเนื่องจากไม่ใช่คำสั่งย้ายแต่เป็นคำสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทับซ้อนจำแนกฯป่าเขาใหญ่ที่กำลังมีกรณีข้อพิพาทเท่านั้น
ด้านการเคลื่อนไหวของ 22 องค์กร เครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ว่าเรายังเดินหน้าเพื่อตรวจสอบประเด็นหมุดปริศนา ส.ป.ก.4-01 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะข้อมูลข้อเท็จจริงที่ทางเราได้ยื่นเอกสารถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปแล้ว ซึ่งจะให้เวลาหน่วยงานได้ตรวจสอบแต่ถ้ายังไม่ชัดเจนหรือดูแล้วมีพิรุธเครือข่าย 22 องค์กร พร้อมเดินต่อด้วยการยืนหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้เข้ามาดูแลปัญหาดังกล่าวเพราะเขาใหญ่ไม่ใช่ของใครแต่เป็นของคนไทยทุกคน
โดยการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวที่ตั้งขึ้นนั้นต้องเป็นคนกลางไม่ใช่คนของหน่วยงานเพราะสังคมมองว่าไม่เป็นกลางและที่สำคัญอาจจะไม่ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงชัดเจน จึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการที่เป็นคนกลางทั้งหมดมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดหรือไม่อย่างไรที่เข้าไปบุกรุกรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดและรวดเร็วชัดเจนมากกว่าย้ายออกไป