หนุ่มใหญ่เครียด เมียหอบลูกน้อยวัยขวบเศษหนี รมควันดับในรถ
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 22 ก.พ. 67 ร.ต.อ.ธนากร แก่นพุทรา พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนเสียชีวิตภายในรถยนต์ ที่หน้าห้องริมถนนนางแว่นแก้ว ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีดำทะเบียน สุพรรณบุรี จอดอยู่ที่หน้าร้านขายผลไม้ตามฤดูกาล ที่พื้นข้างประตูด้านคนขับมีร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายพุฒิพงษ์ นาคสมพันธ์ หรือ ชิน อายุ 42 ปี เจ้าของรถสภาพนอนหงาย ตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย และร่องรอยการต่อสู้ภายในรถพบเตาอั้งโล่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลังเบาะซ้าย ภายในรถไม่พบร่องรอยการรื้อค้นแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายสมเกียรติ เทพประชุม อายุ 52 ปี นายจ้างของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นลูกจ้างขับรถยกรถสไลด์ที่อู่ของตนเวลามีงานรถยก หรือเวลาที่ตนไปต่างจังหวัดหรือไปงานเลี้ยงก็จะให้ผู้เสียชีวิตขับรถให้ เพราะผู้เสียชีวิตไม่ดื่มเหล้าจะได้ไม่มีปัญหาเวลาเจอด่านตรวจ และคืนนี้ช่วงหัวค่ำตนได้ส่งข้อความไลน์มาบอกผู้เสียชีวิตว่ามาเที่ยวสถานบันเทิงในตัวเมืองสุพรรณบุรี เพราะถ้าตนเมาจะได้ให้ผู้เสียชีวิตมาขับรถให้ ผู้เสียชีวิตก็ตอบรับทราบ และบอกว่าจะนอนแล้วจากนั้นตนก็ไปเที่ยวต่อกระทั่งสถานบันเทิงปิด จึงโทรมาหาผู้เสียชีวิตแต่ผู้เสียชีวิตไม่รับและไม่โทรกลับ ตนรู้สึกผิดปกติ
จึงขับรถมาดูก็เห็นรถกระบะของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพติดเครื่องเปิดแอร์เปิดไฟกระพริบ จึงลงไปดูและใช้โทรศัพท์เปิดไฟส่องเห็นผู้เสียชีวิตนั่งก้มหน้าฟุบติดกับพวงมาลัยรถ จึงเคาะกระจกประตูเรียกก็ไม่ตื่นตนจึงลองเปิดประตูด้านซ้ายพบว่าประตูล็อกจึงไปเปิดประตูด้านคนขับซึ่งประตูไม่ได้ล็อกทำให้ร่างของผู้เสียชีวิตร่วงลงมานอนกับพื้น นอนแน่นิ่งตนจึงจับชีพจรดูเพราะตนและผู้เสียชีวิตเคยเป็นกู้ภัยมาก่อน ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณชีพแล้วจึงเดินไปเปิดประตูร้านเสริมสวยซึ่งเป็นของผู้เสียชีวิต อยู่กับภรรยาแต่ภายในห้องไม่มีใครอยู่ ตนก็ยืนงงอยู่พักนึงและนึกขึ้นได้ว่ามีน้องผู้หญิงซึ่งเป็นเพื่อนกับภรรยาของผู้เสียชีวิต พักอยู่จึงไปเคาะประตูเรียกบอกว่านายชินเสียชีวิตแล้ว เพื่อให้เพื่อนภรรยาของผู้เสียชีวิตช่วยติดต่อภรรยาแต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้เนื่องจากภรรยาผู้เสียชีวิตไม่ได้เอาโทรศัพท์มือไปด้วย และพบโทรศัพท์มือถือของภรรยาอยู่ในรถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำโทรศัพท์มาตรวจสอบพบว่าช่วงเวลา 15.45 น.ผู้เสียชีวิตได้โทรไลน์หาภรรยาแต่ภรรยาไม่ได้รับ ต่อมาเวลา 16.02 น.ผู้เสียชีวิตจึงพิมพ์ข้อความไลน์ส่งให้ภรรยามีข้อความถามภรรยาว่ากลับยัง ขอโทษนะที่เป็นพ่อที่ดีไม่ได้ ถ้าได้อ่านพี่คงไม่อยู่แล้ว รักเบนกับลูกนะ อโหสิให้ด้วยนะ จากนั้นได้ส่งคลิปที่มีผู้เสียชีวิตภรรยาและลูกสาววัยขวบเศษเข้ามาในไลน์พร้อมข้อความสุดท้ายรักเบนนะ
จากการสอบถามน.ส.แอน (นามสมมุติ) เพื่อน น.ส.เบน เล่าว่าน.ส.เบนได้เปิดร้านเสริมสวยชื่อเบนซ์บิวตี้และพักอาศัยอยู่กับสามีคือผู้เสียชีวิต มีลูกสาว 1 คน อายุประมาณ1ขวบเศษ ภรรยาผู้เสียชีวิตเคยเล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ลูกค้าไม่ค่อยมี อยากไปหางานทำ บางครั้งเคยมีปากเสียงทะเลาะกันเพราะผู้เสียชีวิตเป็นคนอารมณ์ร้อนโมโหร้าย และเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมาเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ภรรยาผู้เสียชีวิตได้พาลูกหนีออกจากบ้านไปผู้เสียชีวิตกลับมาไม่เจอภรรยากับลูกจึงเกิดความเครียดพยายามตามหาแต่ไม่เจอ กระทั่งมาก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นตนไม่ทราบ
ทางด้านนายจักรกฤษณ์ นาคสมพันธ์ อายุ 39 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต หลังทราบว่าพี่ชายเสียชีวิต ได้มาดูร่างพี่ชายที่เกิดเหตุ เล่าว่าพี่ชายเคยมีครอบครัวมาก่อนมีลูกด้วยกัน 3 คน แล้วเลิกกันและมามีครอบครัวใหม่ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถ ส่วนภรรยาคนปัจจุบันก็เปิดร้านเสริมสวยและมีลูกด้วยกัน 1 คน พี่ชายเป็นคนนิสัยใจร้อน อารมณ์ร้อน ไม่ค่อยฟังใคร พี่ชายเคยเล่าให้แม่ฟังว่ารู้สึกหนักแต่ไม่บอกว่าหนักอะไร ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน ส่วนสาเหตุคาดว่าคงเครียดแล้วทำร้ายตัวเองเพราะพี่ชายเคยก่อเหตุกินยาฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวพาส่งโรงพยาบาลให้หมอรักษาทันจึงรอดชีวิตมาได้ กระทั่งมาก่อเหตุขึ้นอีก
ทางด้านพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบในสำนวนและให้หน่วยกู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีต่อไป
