จนท.สาธารณสุข ลากกระเป๋าเดินทางขึ้นโรงพักเชียงใหม่ แห่ดำเนินคดีสาวเอเจนซี่แสบ ตุ๋นขายตั๋วบินไปกลับเชียงใหม่-ภูเก็ต ขาไปปกติ แต่ขากลับเป็นตั๋วปลอม
วันที่ 24 ก.พ. 67 นาย ณัฐพล ใจวงศ์ อายุ 35 ปี นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการโรงพยาบาลจอมทอง และ นางเปรมมิกา วงค์หล้า นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่และบุคลากรด้านสาธารณสุขทั้งหมด 6 ราย ลากกระเป๋าเดินทางมาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่
เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเอเจนซี่สาวขายตั๋วเครื่องบินบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลับเชียงใหม่-ภูเก็ต คนละ 9,830 บาท เพื่อไปประชุมเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ ที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ. 67
โดยซื้อตั๋วเครื่องบินจากตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่งชื่อ น.ส.เกษ ชาว อ.สันป่าตอง เป็นตั๋วราชการไปกลับ เชียงใหม่-ภูเก็ต คนละ 9,830 บาท ออกเดินทางเมื่อตอนเช้าวันที่ 20 ก.พ. 67 เป็นไปตามปกติ แต่ขากลับได้มาขี้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ ตเวลา 13.00 น .วันที่ 23 ก.พ. 67 แต่เมื่อยื่นตั๋วต่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์สนามบินภูเก็ตบอกว่า เป็นตั๋วปลอมและบอกว่าไม่มีการจองตั๋วเครื่องบิน และเที่ยวบินอื่นก็ไม่มีเที่ยวบินไปเชียงใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้นายณัฐพล เล่าว่า หลังทราบว่าเป็นตั๋วเครื่องบินปลอมนั้น พวกตนต่างรู้สึกตกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คิดว่าคงจะเกิดความผิดพลาดพยายามโทรไปไลน์ไปหาเอเจนซี่ที่ขายตั๋วให้ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงหารือกับเพื่อนที่ไปด้วยกันเดินไปเคาน์เตอร์ใหม่ เพื่อที่จะหาจองตั๋วกลับเอง แต่ปรากฏว่าไฟล์ทที่ ภูเก็ต-เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหยุดสุดสัปดาห์เต็ม และไม่มีเที่ยวบินโดยได้เที่ยวบินไฟล์ทเช้าที่สุดคือวันนี้ เวลา 09.30 น. บินถึงสนามบินเชียงใหม่เวลา 11.30 น. จึงได้ตัดสินใจซื้อ ซึ่งเงินเดือนแต่ละคนเพิ่งออกก็ต้องมาเสียเงินจองตั๋วเอง และต้องนอนรอที่สนามบินนานถึง 22 ชั่วโมง
แต่สิ่งที่ตนเสียใจมากที่สุดคือเมื่อวานนี้มีญาติของตนเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกันไป 3ราย ไม่สามารถกลับมาดูใจ และช่วยงานได้ ทำได้เพียงแต่วิดีโอคอลคุยกับทางบ้านเท่านั้น ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ต้องประสบปัญหาไม่สามารถมาเข้าเวรได้ทันต้องแลกเวรให้เพื่อนเขาแทนให้
ดังนั้นวันนี้จึงเข้าแจ้งความ เพื่อไม่ให้เอเจนซี่รายนี้ไปทำแบบนี้กับใครอีก พร้อมกับต้องการให้ผู้ที่เคยจองตั๋วเครื่องบินกับเอเจนซี่สาวรายนี้ทั้งที่เคยได้รับผลกระทบแบบตน ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม และมาแจ้งความ เพื่อไม่ให้เขาไปกระทำผิดแบบนี้กับใครอีก
ส่วนใครที่จองตั๋วเครื่องบินไปแล้วจะไปเที่ยวมีแพลนจะเดินทางต่อจากวันนี้ขอให้ท่านเช็กตั๋วให้ดีๆ ไม่อย่างนั้นอาจได้รับผลกระทบแบบที่พวกตนเองโดน
อย่างไรก็ตามต้องการฝากไปยังคุณเกษเอเจนซี่รายนี้ ให้หยุดกระทำการลักษณะแบบนี้ เพราะที่เขาทำไปนั้นสร้างความเดือดร้อนให้บุคลากรในแวดวงสาธารณสุข ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนของสำนักงานควบคุมโรคที่1จังหวัดเชียงใหม่เดือดร้อนกันไปหมด
ด้านนางเปรมมิกา กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้เธอได้โทรหาลูกน้องช่วยไปดูที่ออฟฟิศดังกล่าวแถวแยกสนามบิน แต่พบว่าเหลือแต่ห้องว่าง ซึ่งลูกน้องเธอสอบถามคนแถวนั้น บอกว่าออฟฟิศนี้ย้ายไปอยู่ที่ อ.สันป่าตองแล้ว จึงคิดว่าโดนหลอกแน่นอนซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเดือดร้อนกันหมด ไม่คิดว่าเอเจนซี่รายนี้ที่แวดวงสาธารณสุขไว้วางใจใช้บริการมา 10 กว่าปี บอกกันปากต่อปากในการจองตั๋วเชื่อใจกัน เพราะทุกครั้งไม่มีปัญหาออกตั๋วให้ตรงพร้อมใบกำกับภาษี สำหรับเบิกจ่ายได้ แต่มาครั้งนี้เสียความรู้สึกมาก เพราะมีคนโดนกันเยอะ
ที่ผ่านมาทราบว่าเอเจนซี่รายนี้ เริ่มมีปัญหาตั้งแต่เดือน ก.ย. 66 ซึ่งทุกคนจะเจอลักษณะเดียวกันคือไปได้ แต่กลับไม่ได้ บางรายจองเป็นคณะหมดเงินไปเป็นแสนกว่าบาท บางรายจองตั๋วพรีเมี่ยมแต่เมื่อถึงเวลาเดินทางกลับได้ตั๋วชั้นประหยัด ดังนั้นจึงต้องการให้เอเจนซี่รายนี้หยุดพฤติกรรมนี้ และต้องการให้มีการดำเนินคดีและตรวจสอบตั๋วเครื่องบินที่ออกมาด้วย เพราะหวั่นว่าเอเจนซี่รายนี้จะไปก่อเหตุกับบุคลากรรายอื่นอีกและประชาชนที่ต้องการจองตั๋วเครื่องบินแบบสะดวกสบายรายอื่นแต่กลับมาเจอตั๋วปลอมแบบพวกเธออีก