ทนายความ ครอบครองปรปักษ์ ชี้ ปมเหตุลูกความลาโลก เพราะเครียด บวกกับมีโรคประจำตัว เคยบ่นอยากฆ่าตัวตาย ก่อนก่อเหตุไม่คาดฝัน
จากกรณีที่มีข่าวว่า ครอบครัวคู่กรณีบ้านอากู๋ ครอบครองปรปักษ์ ตัดสินใจลาโลกคาบ้านพักตัวเอง 1 ราย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 26 ก.พ. 67 ที่บริเวณด้านหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กทม. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้านไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวบ้านหลังเกิดเหตุ ที่อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยภายหลังเดินทางออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง เหตุเกิดขึ้นภายในห้องน้ำของห้องนอน บริเวณชั้น 2 ของบ้าน โดยเหตุเกิดช่วงเวลาใดนั้นยังไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะต้องไปทำเรื่องที่ สน.คันนายาว ก่อนนำร่างไปส่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจต่อไป คาดว่าเสียชีวิตมาไม่น่าจะเกิน 4- 5 ชม.
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯอีกราย เล่าว่า ได้ยินญาติบอกว่า ติดต่อผู้เสียชีวิตไม่ได้ จึงได้ปีนอ้อมเข้าบ้านทางด้านหลัง และไปเห็นผู้เสียชีวิตผูกคอในห้องน้ำของห้องนอน บริเวณชั้น 2 ของบ้าน สวมใส่ชุดนอนสีม่วง ก่อนญาติจะนำร่างลงมา เพื่อช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการณ์แล้ว ทั้งนี้ทางญาติไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยถ่ายภาพผู้เสียชีวิต
ด้าน ทนายความของคู่กรณีบ้านอากู๋ที่ครอบครองปรปักษ์ เปิดเผยทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตมีความเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมองว่ามีการใช้สื่อเป็นเครื่องมือ เขาก็ร็สึกเครียด และบ่นอยากฆ่าตัวตาย เขาอยากคุยกับฝ่ายตรงข้าม เขาเครียดจากข่าวออกที่ออกไป เพราะกดดันพอสมควร เขาอยากหาทางออก และมีโรคประจำตัวร้ายแรง ทำให้เขาจิตตก ตนเห็นใจ และก็คุยกันเป็นระยะๆ ตอนนี้ตนอยู่ จ.เชียงใหม่ แต่จะรีบเดินทางกลับไปให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องคดีความคงต้องปรึกษาญาติ และรอให้ทำพิธีบำเบ็ญกุศลเสร็จก่อน
สำหรับคดีที่เกิดขึ้น หากดูข้อเท็จจริงพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย ครอบครัวครอบครองปรปักษ์สามารถสู้ได้ ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง แต่ภาวะจิตใจเขาเครียด เพราะเขาเป็นผู้ถูกกระทำ ที่ผ่านมาเขาก็คุยกับญาติเรื่องพยายามไกล่เกลี่ยหาทางออก เขาเครียดตั้งแต่ถูกดำเนินคดีอาญาก่อนที่จะเป็นข่าว และมองว่าฝ่ายตรงข้ามใช้สื่อกดดัน
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่า การที่เหตุเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากมีการให้คำปรึกษาของทนาย เรื่องการครอบครองปรปักษ์ จึงมองว่ามีการโทษทนาย ทนายความ กล่าวว่า การให้คำปรึกษาเรื่องนี้ไม่ใช่จะมาโทษทนาย เพราะเขามีคดีอาญาอยู่ก่อนแล้ว และมีสิทธิ์ หากไม่มีการดำเนินคดีอาญา อาจจะไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้ว ผู้เสียชีวิตโทรหามาตนเอง เพื่อปรึกษาเรื่องคดีความ คนครอบครองปักปักษ์ไม่ใช่คนที่เสียชีวิต แต่คือพี่สาวของเขา เพราะหากครอบครองเกิด 10 ปี เขามีสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ได้ นี่เป็นความเห็นทั่วไปของทนายความ ไม่ใช่การยุยงส่งเสริม
ด้าน น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทนายความของครอบครัวอากู๋ กล่าวว่า ตนทราบเรื่องว่ามีผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับทางอากู๋เลยว่าจะยังไงต่อไป แต่อากู๋ทราบข่าวก็คงช็อกอยู่เหมือนกันที่เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ เพราะต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง
เมื่อถามว่า ทนายฝ่ายครอบครองปรปักษ์ แจ้งว่าฝ่ายเจ้าของบ้านใช้สื่อกดดันจนนำมาสู่ความเครียด และเกิดการเสียชีวิตครั้งนี้ ทนายกุ้ง กล่าวว่า อันนั้นก็เป็นความคิดของเขา เราก็ห้ามไม่ได้ ทุกคนก็ต่างคนต่างทำหน้าที่ ในส่วนของทางคดีความ เมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้วคดีก็ถือว่าสิ้นสุดแล้วเฉพาะบุคคลนั้นๆ ก็จบไป ส่วนอีก 4 คนก็จะต้องดำเนินการตามกระบวนการต่อไป ทั้งนี้จะต้องพูดคุยกับฝ่ายอากู๋อีกครั้ง