สามีคู่กรณีคดีครอบครองปรปักษ์เปิดใจ ภรรยาเครียดหนัก ยันไม่เคยคิดยึดบ้านอากู๋ สัญญาณสุดท้าย บอกทุกคนว่า “จะขอออกหน้าคนเดียว”
จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภานุมาศ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุก ใน คดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ โดยทนายความของฝั่งผู้ต้องหาระบุว่า เกิดจากความเครียดที่ถูกกดดัน
จนต่อมา นาย เดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ทนายความของอากู๋ และนายซัน หลานของอากู๋ ร่วมแถลงจี้ทนายความของอีกฝ่ายรับผิดชอบ ภายหลังแนะนำให้ลูกความสู้คดี ทั้งที่ลูกความระบุว่าไม่อยากทำแล้ว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 27 ก.พ. 67 นายเอ๋ สามีของน.ส.ภานุมาศ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเป็น 1 ใน 5 คนที่ถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกตั้งแต่รอบแรก ซึ่งต่อสู้คดีเรื่อยมา ส่วนการเข้าไปบุกรุกรอบที่ 2 และตั้งเรื่องฟ้องปรปักษ์ เพราะฟังคำแนะนำจากหลายคนหลายฝ่าย ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด จนคุณนุก็สูญเสียความเป็นตัวเองไป
ที่ผ่านมาคุณนุไม่มีเจตนาครอบครอง และฟ้องปรปักษ์บ้านหลังดังกล่าว คุณนุและตนคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า จุดจบสุดท้าย ปลายทางการฟ้องปรปักษ์ หากฟ้องชนะจะคืนบ้านให้อากู๋ เจ้าของบ้าน และจะแจ้งสื่อให้ทราบข่าวด้วย
ที่ผ่านมาตนและภรรยาถูกสังคมตราหน้าเป็นคนผิด จึงต้องการทำให้สังคมเห็นว่ากระบวนการทางกฎหมาย มีอะไรที่สามารถทำได้ หรือทำไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้ต้องการครอบครองบ้าน จุดประสงค์ของภรรยา ต้องการให้ทั้ง 5 คนที่ถูกดำเนินคดีก่อนหน้านี้พ้นผิด พูดคุยไกล่เกลี่ยและถอนฟ้อง เมื่อไม่นานมานี้ตน และภรรยาก็พยายามเข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีตลอด
นายเอ๋ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ทนายฝั่งตนบอกว่า ภรรยาจบชีวิตตัวเอง เพราะถูกสื่อกดดัน ตนว่ามีส่วนประมาณ 60-70% เพราะตั้งแต่เป็นข่าวรอบที่ 2 สังเกตเห็นภรรยาว่ามีความเครียดมากกว่ารอบแรก เพราะถูกขุดคุ้ยข้อมูลหลายอย่าง ลามไปถึงธุรกิจที่กำลังทำอยู่ โดยภรรยาเป็นคนเข้มแข็งและต่อสู้ด้วยตัวเองเรื่อยมา ต้องการปกป้องตนเองและธุรกิจ จึงอาจตัดสินใจผิดพลาด เพราะฟังคำแนะนำจากหลายฝ่าย จนไม่เป็นตัวของตัวเอง และไม่ได้มองถึงผลกระทบ จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เหมือนเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นตัดสินใจแบบนี้ โดยสัญญาณสุดท้าย 1 สัปดาห์ก่อนที่ภรรยาจะตัดสินใจไม่คาดคิด ภรรยาพูดกับตนและคนรอบข้างตลอดว่า “นุจะขอออกหน้ารับผิดเองคนเดียว”
ขอบคุณที่มา : รายการ โหนกระแส
Advertisement