แห่ชื่นชม น้องเฟิร์น เด็กยอดกตัญญู เก็บขวดขายเลี้ยง 14 ชีวิตในครอบครัว แม้ทุกวันจะเหนื่อยล้า แต่ไม่เคยท้อ เพราะรู้ว่าครอบครัวลำบาก
วันที่ 29 ก.พ. 67 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ลงพื้นที่บ้านของ ด.ญ.นันฐชา พฤกตาน หรือ น้องเฟิร์น อายุ 14 ปี ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 33 แยก 3 สภาพทางเข้าบ้านเป็นซอยแคบๆ บ้านที่อาศัยเป็นบ้านปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ส่วนห้องนอนมีสมาชิกครอบครัวเกือบทุกคนรวมกัน
พบยายของน้องเฟิร์นที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ โดยมีน้องเฟิร์นกำลังเช็คตัวให้ยาย ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของน้องเฟิร์นที่ต้องทำ
หลังจากนั้นเป็นเวลาที่น้องเฟิร์นต้องออกไปหาขวด เพื่อเก็บกลับมาไว้ขาย โดยไม่ได้สวมรองเท้า ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อพละโรงเรียน ถือถุงปุ๋ย 1 ถุงเดินหาขวดตามถังขยะในชุมชน และเดินลัดเลาะตามคลอง เพื่อหาขวด ซึ่งเป็นภาพชินที่ชาวบ้านซอยสุขสวัสดิ์ 33 เห็นเป็นประจำ
น้องเฟิร์น กล่าวว่า ปกติทุกวันก็จะเดินหาแบบนี้เป็นประจำ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ได้เท่าไหนก็เอาเท่านั้น ไปเก็บรวบๆไว้ขาย ที่ไม่ใส่ร้องเท่าเพราะชินแล้ว
ในทุกๆ วันเวลาตี 5 หรือ 6 โมงเช้า จะตื่นไปเก็บขวดภายในซอยแถวบ้าน หลังจากนั้นก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมข้าวไว้ให้ยายและไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็เช็ดตัวให้ยาย ป้อนแล้ว และออกไปเก็บขวดอีกรอบ ทำแบบนี้ทุกๆ วันจนชิน ไม่ได้กลัวอะไร เดินหาเก็บขวดตามริมคลองตามชุมชน คิดว่าการเก็บขวดขายเป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้ไปลักขโมยใคร และตัวเองก็ไม่เคยอายที่ไปทำแบบนี้
ครอบครัวเองก็สนับสนุนให้ทำ เพราะทุกคนในบ้านต้องช่วยกันทำงานหาเงิน จะได้มีกิน บางครั้งโชคดีหน่อยมีคนใจดี เรียกไปเอาขวดโดยแลกกับการทำงานบ้าน ตัวเองก็ไป ได้มากสุด 2 กระสอบบางวันไม่ได้เลยก็มีต้องเก็บมารวบรวมเอาไว้ 2 อาทิตย์ขายได้ 1 ครั้ง ได้เงินระหว่าง 200 - 500 บาท /ถึงแม้เงินจะไม่มาก แต่ก็ยังดีที่เอามาซื้อของให้ยายกิน และเลี้ยงทุกคนในครอบครัวได้
ตอนนี้รู้สึกดีใจที่ได้แบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ ส่วนที่โรงเรียนตัวเองก็ไปเรียนประจำ มีทันเพื่อนบ้างไม่ทันเพื่อนบ้าง ทุกคนก็จะช่วย คุณครูก็จะแนะนำ เพราะตนเรียนไม่เก่ง โรคประจำตัวทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิ ต้องกินยาละงับตลอด ตอนนี้อยากขอบทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ตนจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ หาเงินเก็บเงินให้แม่ และพายายไปหาหมอ
ส่วนอนาคตข้างหน้าก็อยากเป็นพนักงานทั่วไป และอยากบอกทุกคนในครอบครัวว่าตัวเองจะสู้เพื่อทุกคนในครอบครัว
ด้านนางชุติมา พฤกตาน อายุ 40 ปี แม่ของน้องเฟิร์น กล่าวว่า ครอบครัวมีกันทั้งหมด 14 คน ส่วนตัวเธอมีลูก 5 คน น้องเฟิร์นเป็นคนที่ 3 พี่สาวของน้องเฟิร์นก็ป่วย ตัวน้องเฟิร์นเองก็ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น ควบคุมตัวเองไม่ได้ต้องกินยาตลอดชีวิต
ส่วนน้องเฟิร์นลูกสาวทำงานหาเงินตั้งแต่เด็กอนุบาล อะไรที่ได้เงินลูกทำหมด ถึงแม้ไปแล้วไม่ได้เงินได้ขวดมาขายก็เอา นอกจากนี้ลูกสาวยังช่วยเก็บกวาดบ้าน เช็ดตัวยายป้อนข้าวป้อนน้ำ ล้างจาน น้องเฟิร์นบอกเลยว่าเดี๋ยวตนจะทำเอง แม่ไม่ต้องทำ ตนได้ยินคำนี้ก็รู้สึกดีใจ ลูกสาวไม่เคยบ่นเรื่องการทำงาน และเก็บขวดขาย แถมชอบที่จะช่วยครอบครัว
บางวันไม่มีข้าวกินก็ไปขอที่วัด รวมถึงทางโรงเรียนเองก็เห็นใจให้ข้าวกลับมากินด้วย บางครั้งก็สงสารลูกที่ถูกเพื่อนล้อ ยอมรับลูกสาวเป็นเสาหลัก หาเงินเข้าครอบครัวจริงๆ ถึงรายได้จะไม่พอก็ยอมที่จะอด มีเงินคนชรา และคนพิการของคนในครอบครัวมาช่วยค่าน้ำค่าไฟแต่ไม่พอ คิดน้อยใจไปถึงขั้นจะทำร้ายตัวเองร้องไห้กอดกันกับลูกสาว
วันไหนไม่มีเงินก็บอกคนในครอบครัวว่าไม่มีให้ ไปเซ็นไว้ก่อน อยากจะพูดกับลูกสาวว่า “แม่สงสารหนูมาก ให้อดทนเอานะลูก แม่จะส่งให้หนูเรียนจนสูงที่สุด แต่ตอนนี้กำลังแม่ได้แค่ ม.3 แต่แม่จะพยายาม ขณะที่ ตัวน้องเองคิดไว้ถ้าไม่ได้เรียนต่อในชั้นมัธยมปลายก็จะหันไปเรียน กศน.แทน”
ทั้งนี้ก็อยากให้ลูกได้เรียนต่อ เพราะลูกสาวเป็นคนขยันความหวังอยู่ที่ลูกคนเดียว ส่วนตนเป็นห่วงทุกคนในครอบครัวหมดทั้งเรื่องชีวิตสุขภาพ