สลด พบศพทารกแรกเกิดถูกสุนัขกัดแทะ และมีรอยถูกไฟไหม้

1 มี.ค. 67

พบศพเด็กแรกเกิดถูกทิ้ง บริเวณหน้าแคมป์คนงานโรงโม่หิน ใน จ.แม่ฮ่องสอน คาดแม่เด็กเป็นสาวรักสนุก เมื่อคลอดออกมาเลยนำลูกมาทิ้งข้างทาง

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 29 ก.พ 67 ร.ต.อ.สุวรรณ เจริญสุข พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน รับแจ้งเหตุพบศพทารกแรกเกิด ถูกสุนัขคาบมาทิ้งบริเวณหน้าแคมป์คนงานโรงโม่หิน ถนนเลี่ยงเมืองเขตพื้นที่บ้านขุนกลาง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานแพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยแม่ฮ่องสอน

เมื่อไปถึงพบว่าเป็นศพทารกแรกเกิด ถูกสุนัขคาบมาจากที่อื่น มาทิ้งไว้ห่างจากแคมป์คนงานเพียง 7 เมตร สภาพศพยังไม่มีกลิ่นเหม็น ถูกสุนัขกัดแทะหน้าท้อง เป็นแผลฉีกขาด ชิ้นส่วนอวัยวะช่วงร่าง และขาทั้งสองข้างหลุดหาย จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย บริเวณศีรษะและต้นแขนซ้าย มีรอยถูกไฟไหม้ และชิ้นส่วนของมือหลุดออกมาส่วนแขน และมือข้างขวาขาดหาย ตามลำตัวถูกสุนัขกัดแทะเป็นแผลเหวอะหวะ เจ้าหน้าที่พยายามค้นหาอวัยวะชิ้นส่วนที่ขาดหายบริเวณที่พบศพแต่ก็ไม่พบอะไรเพิ่มเติม

จากการสอบสวนนายพีระพงษ์ อายุ 24 ปี คนงานที่พักในแคมป์ และเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การณ์ว่าตนกับภรรยาออกจากแคมป์ไปที่ไซต์งาน ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า และกลับเข้ามาแคมป์ที่พักในเวลา 6 โมงเย็น ซึ่งระหว่างนั้นปรากฏเห็นสุนัข 2 ตัว กำลังกัดแทะซากศพอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบดูพบว่าซากศพดังกล่าวลักษณะเหมือนเด็กทารก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ โดยหลังการตรวจสอบจากการชันสูตรเบื้องต้นเด็กทารกน่าจะเสียชีวิตมาได้ 4-5 ชั่วโมง แต่เนื่องจากอวัยวะร่างกายบางชิ้นส่วนขาดหาย และถูกสุนัขกัดแทะ ทำให้ไม่สามารถระบุเพศได้เจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอไว้เป็นหลักฐาน และรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบว่าคนงานในแคมป์ดังกล่าวมีใครหายไปหรือไม่ หรือว่าช่วงนี้มีใครตั้งท้องหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบมีผู้ใดน่าสงสัย เจ้าหน้าที่คาดว่าศพเด็กทารกน่าจะถูกสุนัขคาบมาจากที่อื่น ที่ไม่ไกลจากแคมป์คนงาน และน่าจะเป็นหญิงสาวที่ชอบสนุก แต่ไม่พึงประสงค์จะมีลูก เมื่อตั้งท้องจึงทำคลอดเองหลังจากคลอดออกมาเด็กอาจเสียชีวิตจากนั้นจึงนำเด็กไปเผาทิ้ง เนื่องจากตามร่างกายของทารกบางแห่งมีลอยไหม้เกรียม ก่อนที่สุนัขจะดมกลิ่นไปพบและคาบซากศพไปกัดแทะ จนอวัยวะบางชิ้นส่วนหลุดหายซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองและสืบสวนหาตัวแม่ใจร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากบริเวณระแวกที่เกิดเหตุมีบ้านเรือนของผู้คนอาศัยอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส