เหตุหมอโดนฝรั่งเตะหลัง เปิดใจไม่ควรมีการเหยียด ไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะเป็นใคร คุณเป็นต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย คุณควรอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข - ล่าสุดสั่งรื้อบันไดวิลล่าหรู - ด้านทนายดังชี้ดูซิเงินซื้อได้ทุกอย่างในประเทศไทยหรือเปล่า ต่อไปคนไทยคงไม่สามารถจะเดินชายหาดได้แล้วมั้ง
จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับเหตุทำร้ายร่างกายที่บริเวณหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 20.50 น. พ.ญ.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกนายออส อายุ 45 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ เดินเข้ามาเตะเข้าบริเวณหลัง พร้อมกับใช้ถ้อยคำหยาบคาย ขณะนั่งเล่นบริเวณบันไดริมชายหาด จึงได้แจ้งความกับพ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี โดยคุณหมอเผยต้องการขอความเป็นธรรม เนื่องจากภรรยาชาวต่างชาติที่เป็นคนไทย อ้างว่ามีลูกชายเป็นตำรวจและรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ของ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม นั้น
วานนี้ (29 ก.พ. 67) แพทย์หญิงได้เข้าให้ปากคำกรณีฝรั่งเตะหลังบาดเจ็บ กับ พงส.สภ.ถลาง และให้สัมภาษณ์ว่า หมอไม่ควรที่จะมาถูกกระทำเช่นนี้ และก็ไม่ควรที่จะมีคนไทยคนใดถูกกระทำเช่นนี้ หรือมาเจอเรื่องแบบหมออีก ซึ่งหมอขอยืนยันเต็มที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ส่วนกรณีกังวลหรือไม่ที่ชาวต่างชาติจะแจ้งความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีที่พ่อของหมอไปโพสต์ผ่านโซเชียล โดยมีชื่อของชาวต่างชาติอยู่ในใบแจ้งความนั้น ทุกอย่างมันคือความจริง ถ้าเขาจะฟ้องก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติกล่าวอ้างว่าลื่น หรือสะดุดล้ม และมีเพื่อนเป็นพยานนั้น หมออยากถามกลับไปว่า ถ้าคุณลื่นล้ม แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อ ก็ต้องขอโทษใช่ปะ
พญ.ธารดาว กล่าวเพิ่มเติมกรณีถูกคู่กรณีเหยียดนั้น หมอมองว่าไม่ควรมีการเหยียด ไม่ว่าคนไทยคนนั้นจะเป็นใคร อีกอย่างคุณเป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย มาหากินกับคนไทย เปิดธุรกิจต่างๆ ในผืนแผ่นดินไทย คุณควรอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
จากนั้น พ.ต.อ.ภารกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ตามขั้นตอนก็จะมีการออกหมายเรียกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ทางพนักงานสอบสวนไม่มีความกังวลใดๆ เพราะทางผู้เสียหายได้นำใบชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ รพ.ดีบุก มาประกอบคำให้การ ความหนักเบาของข้อหาอยู่ที่ลักษณะบาดแผล และจำนวนวันการรักษาที่แพทย์ลงความเห็นไว้
โดยเรื่องนี้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ผวจ.ภูเก็ต ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม หรือความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาใน จ.ภูเก็ต ผ่านคณะกรรมการ โดยมีด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตเป็นเลขานุการ ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติบางคนประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยจะนำมาเข้าคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งถ้าเข้าข่ายจะมีการเสนอเพิกถอนหนังสือเดินทางอย่างเด็ดขาด และในส่วนการทำงานของตำรวจนั้น อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นกระบวนการการสอบสวนซึ่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รอง ผบก.จว.ภูเก็ต กล่าวย้ำ
ด้าน นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต อำเภอถลาง และนายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าคลอก นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดิน บริเวณวิลล่าที่เกิดเหตุ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง
จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของวิลล่าเคยนำชี้ขอออกโฉนด ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็น นส.3 ก. โดยแนวที่นำชี้คือ ขั้นบันไดที่ 1 ดังนั้นขั้นบันไดลงมา 2-4 เป็นการรุกล้ำที่ดินสาธารณะบริเวณแนวชายหาดทรายสาธารณะ จึงมอบหมายนายกเทศบาลตำบลป่าคลอก เข้าแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกตามกฎหมาย และดำเนินการรื้อถอน
นอกจากนี้ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาโพสต์ผ่าน เพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ถึงกรณีนี้ ระบุ
#มีเงินทำอะไรก็ได้ที่ประเทศไทยไม่มีความผิดจริงหรือไม่
คดีฝรั่ง ถูกกล่าวหาว่าเตะหมอผู้หญิง นั่งขวางบันได ติดริมหาด ชี้ให้เห็นว่า
คนต่างชาติมีเงิน ทำอะไรก็ได้ในประเทศไทย ทำผิดก็ยัง อ้างตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้ ที่ดิน รุกล้ำ ที่สาธารณะซึ่งเป็นชายหาดเป็นสมบัติของแผ่นดินก็ไม่ถูกดำเนินคดี
ปล่อยปละละเลย มาเป็นเวลานาน เพราะเงินตัวเดียวใช่หรือไม่ ผมยังเชื่อว่า มีฝรั่งแบบนี้ที่ภูเก็ตอีกเยอะ ลองเช็คประวัติดูซิว่าเข้าเมืองไทยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่มีคดีความหรือไม่
หากดูแล้วเป็นภัยต่อประเทศชาติก็ควรเนรเทศออกไป
การพูดการจาของชาวต่างชาติจากที่ดูข่าวใช้ภาษาหยาบคายดูถูกคนไทยว่าเป็นแค่คนท้องถิ่นทั้งที่เป็นเจ้าของประเทศ
ผมเชื่อว่าฝรั่งแบบนี้ไม่น่ามีคนเดียวนะ น่าจะมีอีกหลายคนที่ภูเก็ตอย่ามองแต่เรื่องเศรษฐกิจมองเรื่องความมั่นคงและวัฒนธรรมของคนไทยด้วยนะครับฝากตำรวจกรมที่ดิน กรมอุทยานเจ้าท่าหรือหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ลองไปดูซิเงินซื้อได้ทุกอย่างในประเทศไทยหรือเปล่าต่อไปคนไทยคงไม่สามารถจะเดินชายหาดได้แล้วมั้ง
เพราะอาจจะโดนกระทืบเหมือนหมอผู้หญิงคนนี้จริงไหมครับพี่น้อง มีเงินทำได้ทุกอย่างแถมยังมี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังด้วยใช่หรือไม่