ลูกคนขับรถรับ-ส่ง หลวงปู่พูน ปัดฆ่าล้างหนี้ ยันรักเหมือนพ่อ

ลูกเลี้ยงคนขับรถรับ - ส่ง หลวงปู่พูน ยอมรับติดหนี้หลักล้านจริง ปัดฆ่าล้างหนี้ ยืนยันรักเหมือนพ่อ

จากกรณีหลวงปู่พูน ฐิตปุญโญ อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าเกษมสุข หมู่ 8 ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ถูกไฟเผาไหม้เกือบทั้งร่าง เหลือเพียงส่วนหัวและส่วนบนบางส่วน อยู่กลางป่าหลังวัด

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้า วันที่ 3 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ชาวบ้านส่วนหนึ่งคาดว่าหลวงปู่ถูกฆาตกรรมและเผาเพื่อทำลายหลักฐานและอำพรางคดี ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างของหลวงปู่ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทีมข่าวพูดคุยกับนายชัย อายุ 43 ปี ลูกเลี้ยงผู้ใหญ่อุเทน คนขับรถหลวงปู่พูน เล่าว่า ตัวเองศรัทธาหลวงปู่พูน เข้ามาเป็นลูกศิษย์กว่า 10 ปีแล้ว โดยหลวงปู่ก็รักตนเหมือนลูก ส่วนตนก็รักและดูแลหลวงปู่เหมือนพ่อคนหนึ่ง

ซึ่งเมื่อก่อนตนทำธุรกิจขายรถสีข้าว ก็พอมีเงินหมุนเวียนธุรกิจ ก่อนหน้านี้ก็จ้างให้น้าชายมาคอยขับรถรับส่งหลวงปู่ไปบิณฑบาต เดือนละ 5,000-8,000 บาท แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา น้าชายไม่สะดวกรับส่งหลวงปู่แล้ว ตนจึงให้ผู้ใหญ่อุเทน พ่อเลี้ยงไปรับส่งหลวงปู่แทน

ที่ผ่านมายอมรับเรื่องการยืมเงินหลวงปู่มาหมุนเวียนทำธุรกิจ เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วเคยยืมครั้งแรก จำนวน 400,000 บาท จากนั้นมีการเช่าพระเครื่องจากหลวงปู่เกือบ 20 องค์ ซึ่งตนก็เป็นการตีราคากันเอง บางองค์ก็ราคาสูงเพราะเป็นพระดัง เช่นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มูลค่ารวมประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนนี้ตนก็ยังเป็นหนี้อยู่ มีการทยอยคืนครั้งละ 20,000 -30,000 บาท นอกจากนี้ตนยังซื้อกุฏิถวายจำนวน 400,000 บาท บูรณะศาลาภายในวัด แต่ไม่เคยพูดว่าเป็นการหักหนี้ แต่คิดว่าจำนวนเงินที่คืนหลวงปู่ไป รวมแล้วยอดหนี้น่าจะเหลืออยู่ประมาณ 1 ล้านบาท

จนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนได้เจอหลวงปู่ครั้งสุดท้าย ยอมรับว่ามาที่วัดเพื่อขอยืมเงินหลวงปู่อีกครั้ง จำนวน 100,000 บาท เพื่อไปหมุนเวียนทำธุรกิจ ซึ่งหลวงปู่ก็ให้ยืม เนื่องจากตั้งแต่ช่วงโควิดธุรกิจตนก็ล้ม จนตอนนี้ตนอยู่จังหวัดอุดรธานี ทำงานค้าขายหมูยอ

นายชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนบอกหลวงปู่ตลอดว่าจะทยอยคืนเงินให้ ท่านก็ไม่ได้ทวงถาม บอกแค่ว่ามีแล้วค่อยคืน ตัวเองยืนยันไม่ได้ฆ่าหลวงปู่ล้างหนี้แน่นอน เพราะบุญคุณหลวงปู่เยอะมาก ตนจะทำเพื่ออะไร ยังคิดด้วยซ้ำว่าแม้หลวงปู่จะไม่อยู่แล้ว ก็ต้องหาเงินมาคืนท่าน ด้วยการบูรณะวัดต่อไป ยืนยันรักหลวงปู่เหมือนพ่อ ไม่คิดทำร้าย

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เชื่อว่าเป็นเหตุฆาตกรรม อาจจะเกี่ยวกับเรื่องคนที่ชอบลักลอบเข้ามาหาผลประโยชน์ในวัด แล้วหลวงปู่ดุด่าอาจจะไม่พอใจ เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยมีคนมาหาไก่ป่าในวัด หลวงปู่ก็ด่าไป อีกฝ่ายยิงสวนจนทะลุหลังคา ซึ่งตนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
นอกจากนี้นายชัย ยังโชว์พระเครื่องที่เช่ามาจากหลวงปู่ จำนวน 2 องค์ ซึ่งเจ้าตัวห้อยคอเอาไว้ องค์แรกคือหลวงปู่จันทา วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร และหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกองเพล จ.อุดรธานี.