อีกแล้วชายชาวสวิสรัวหมัดใส่สาวไทย ปมรถเข็นเบียดกันในห้าง ตำรวจคุมตัวยังปิดปากเงียบ สอบนาน 9 ชม. ล่าสุดแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเตรียมส่งศาลตรัง
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 5 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายตรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายหญิง ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครตรัง หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังเข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้าง พบคนกำลังให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ น.ส.นัฎชนันท์ อายุ 53 ปี ถูกทำร้าย มีเลือดท่วมศีรษะ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อ Mr.Straumann อายุ 62 ปี สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ตำรวจสายตรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองตรัง ก่อนประสาน พ.ต.ท. ปิยะนัช โตประเสริฐ สว.ตม.จว.ตรัง ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ ตม.ตรัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในระหว่างที่พนักงานสอบสวนพยายามสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุยังคงขัดขืนและไม่ให้ปากคำ ยังคงนั่งเงียบและไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งไม่ให้ผู้สื่อข่าวทำการสอบถามและบันทึกภาพ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่ง รพ.ศูนย์ตรัง เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าจมูกหัก คิ้วขวาแตก และมีรอยฟกช้ำ นอกจากนี้น.ส.นัฎชนันท์ อยู่ในระหว่างการรักษาตัวโรคเกี่ยวกับกระดูก ในตอนนี้อยู่ระหว่างการกายภาพบำบัด
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บได้เดินทางมาซื้อของที่ห้างดังกล่าว ในขณะที่เข็นรถเข็นอยู่นั้นเอง ผู้ก่อเหตุได้เข็นรถมาชนกับรถเข็นของ น.ส.นัฎชนันท์ ทางผู้ได้รับบาดเจ็บจึงพูดเตือนไปว่าให้ระวัง ๆ และสุภาพหน่อย แต่ชายชาวต่างชาติรายดังกล่าวกลับสวนหมัดมาแหย่หน้า น.ส.นัฎชนันท์ ก่อนเดินหนีไป ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงหยิบขวดน้ำพลาสติกในรถเข็นเขวี้ยงใส่คู่กรณีแต่ไม่โดน ก่อนที่ชาวต่างชาติจะปรี่เข้าหา น.ส.นัฎชนันท์ ก่อนรัวหมัดใส่ไม่ยั้งจนได้รับบาดเจ็บ
สำหรับผู้ก่อเหตุ พาสปอตจะหมดอายุในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 และถือวีซ่าพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ล่าสุด ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ผู้บาดเจ็บออกจากห้องไอซียูและไปพักฟื้นต่อที่ตึกศัลยกรรมผู้ป่วยหนักแล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ได้ เพราะยังมีอาการบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บเพิ่งไปถอนฟันมา แต่ถูกหมอฟันถอนผิดซี่ ทำให้เส้นประสาทอักเสบ ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นอยู่นานนับปี จนต้องใช้ไม้ค้ำยัน และเพิ่งจะทิ้งไม้ค้ำยันไม่ถึง 1 เดือน ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก
ด้านนายกฤตพงศ์ อายุ 25 ปีลูกชายของผู้บาดเจ็บเล่าว่า แม่ไปซื้อของชั้น 2 โซนขายน้ำ ซึ่งแม่ของตนก็เข็นรถเข็นมาตามปกติแต่เดินไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ก่อนที่จะมีฝรั่งเดินมาเบียดจนแม่ของตนเกือบจะล้ม แม่ของตนจึงพูดเป็นภาษาอังกฤษไปว่า ช่วยให้เกียรติกันหน่อย ทำให้ฝรั่งมาต่อยแม่ของตนถึง 4 ครั้ง ก่อนจะเดินหนี แม่ตนจึงเอาขวดน้ำอัดลมปาใส่แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งกลับมาผลักแม่ของตนจนล้มและเอาหัวเข่ายันคอแม่เอาไว้ ก่อนจะต่อยไม่ยั้งน่าจะเกิน 20 ครั้ง
ที่หมอบอกคือดั้งหัก เบ้าตาข้างขวาแตก หัวแตกร้าว แต่ไม่มีเลือดคั่งในสมอง ซึ่งเป็นห่วงเรื่องคดีกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต่างชาติไม่ยอมให้การใด ๆ กับตำรวจ จึงอยากให้ช่วยทำให้เป็นเคสตัวอย่าง ไม่ให้มาทำกับคนไทยได้อีก
ซึ่งแม่ตนก็ไม่สบายอยู่ถึงช่วงนี้แข็งแรงขึ้นแล้ว แต่มาโดนแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าแม่จะทรุดลงขนาดไหน ตอนนี้แม่พูดคุยได้แต่ไม่มาก เพราะเริ่มจะเบลอ เวลานั่งนานจะมีเลือดไหลออกทางจมูก
ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวตรัง มาคอยเป็นล่ามในการสอบปากคำ ผ่านมา 9 ชั่วโมง ชายชาวต่างชาติรายดังกล่าวยังคงนั่งนิ่งปิดปากเงียบไม่ยอมพูดคุยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จนเวลาประมาณ 01.00 น. พนักงานสอบสวนได้ให้ล่ามแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เพื่อให้ผู้ต้องหารับทราบ แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมเซ็นรับสารภาพ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เตรียมประสานล่ามเตรียมส่งฝากขังศาล จ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวรวุฒิ หนูเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านโคกพลา ต.โคกหล่อ และตำรวจสภ.เมืองตรัง ได้ร่วมกันตรวจสอบบ้านเช่าที่ผู้ต้องหาได้เช่าอยู่ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณประตูหน้าบ้านมีการล็อกด้วยแม่กุญแจแบบใส่รหัส ภายในบ้านมีการเปิดไฟไว้ 1 ดวง เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งเสียงเรียกก็ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ด้านในจากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านทราบว่า พฤติกรรมของชายชาวสวิสเซอร์แลนด์รายนี้เป็นคนสันโดษ ชอบเดินถอดเสื้อตอนเช้าและกลางดึก ได้คบหากับผู้หญิงชาวไทย โดยได้เช่าที่บ้านหลังนี้นานแล้ว แต่ช่วงหลังสาวที่คบกันได้ย้ายไปอยู่ที่ จ.กระบี่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเรื่องระหองระแหงกัน
Advertisement