หลวงปู่พูนถูกฆ่าเผาร่างอำพรางคดีส่อโอละพ่อ

6 มี.ค. 67

หลวงปู่พูนถูกฆ่าเผาร่างอำพราง คดีอาจจะกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ รอผลพิสูจน์ว่าพบน้ำมันเชื้อเพลิงในที่เกิดเหตุหรือไม่


วันที่ 6 มีนาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี หลวงปู่พูนฐิตปุญโญ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าเกษมสุข สงสัยว่าถูกคนร้ายฆ่าเผาอำพรางคดี เหตุเกิดที่บริเวณสวนป่า ภายในวัดป่าเกษมสุข หมู่ 8 บ้านท่าเสา ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

ล่าสุดชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชี จากวัดต่างๆต่างมาช่วยเตรียมงานพิธีฌาปนกิจศพ ซึ่งทางวัดได้สร้างสถานที่ทำการฌาปนกิจขึ้นมาใหม่ ซึ่งพิธีจะจัดขึ้นที่สำนักสงฆ์สวนป่าแห่งนี้ ในวันที่ 7 มีนาคม 2567 โดยวันนี้ได้มีกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก เดินทางมาติดตามทำข่าว

เบื้องต้นความคืบหน้าทางคดี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 รายไปสอบปากคำ ผลการสอบพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางด้านคดี คาดว่าจะเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ส่วนเรื่องหนี้สินที่ถูกกล่าวอ้างเรื่องเงิน 3 ล้านที่มีคนมายืมเงินหลวงปู่พูนไปนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นสาเหตุ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานในการยืมเงิน แถมเรื่องที่อ้างมาก็มีตั้งแต่ปี 2560 มาแล้ว ส่วนการชี้ผลคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง จะต้องรอผลการตรวจยืนยันของเจ้าหน้าที่กองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานว่าพบร่องรอยของน้ำมันเชื้อเพลิงในที่เกิดเหตุหรือที่ร่างของหลวงปู่พูนหรือไม่

ซึ่งหากผลการพิสูจน์หลักฐานยืนยันออกมาว่าไม่พบว่ามีน้ำมันเชื้อเพลิง งานนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ คือ หลวงปู่พูนอาจจะเข้าไปดับไฟป่าที่ถูกคนลักลอบจุด แล้วไฟเกิดลุกลามเข้าไปในเขตวัด แล้วหลวงปู่พูนอาจจะเกิดเป็นลมจนถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตดังกล่าวก็เป็นได้ ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานเรื่องการพบเศษกระดูกที่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร นั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเป็นเพียงแค่กระดูกไก่เท่านั้น ไม่ใช่ชิ้นส่วนของมนุษย์แต่อย่างใด

จากการสอบถามแม่ชีแดง อายุ 67 ปี เล่าว่าตนเองรู้จักหลวงพ่อดี ท่านไม่มีศัตรูที่ไหนมาก่อน วันเกิดเหตุหลานชายหลวงปู่ เล่าให้ตนฟังว่าหลวงปู่ไปยืนอยู่ที่หน้าวัด เพื่อไปเรียกชาวบ้านขอความช่วยเหลือให้มาดับไฟที่เกิดขึ้นภายในวัด ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อว่าเรื่องมันจะเลวร้ายขนาดนี้ คือก่อนหน้านี้ท่านให้คนช่วยไปตามคนมาดับไฟที่เกิดขึ้นภายในวัด เรื่องนี้ตนเองทราบเรื่องมาจากคำบอกเล่าของหลานหลวงปู่.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส