แจงดรามา ชาวเน็ตแห่แซว พญานาคพ่อปู่ ฮ้อนแดด หรือ นอนน้อย คนสร้างบอกตั้งใจทำดวงตาให้เหมือน องค์พ่อปู่ดูลูกดูหลานที่มาสักการะ
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “แจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด” โพสต์ภาพ องค์พญาศรีสุทโธนาคราช พร้อมข้อความระบุว่า “ใกล้เสร็จแล้ว‼ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองร้อยเอ็ด องค์พญานาคราช ณ.อ่างเก็บน้ำธวัชชัย ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด 101”
“ด้วยความสูง 22 เมตร ความยาวลำตัวจรดหาง 111 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ และเป็นแลนด์มาร์คสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งใน จ.ร้อยเอ็ด และขอเชิญกราบไหว้ขอพรพ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา ซึ่งประดิษฐานที่พำนักชั่วคราวอ่างเก็บน้ำธวัชชัย ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น เตรียมพบกับความสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างอีกไม่นานเกินรอ แล้วมาเที่ยวกันนะครับ”
ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ภาพออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามากดไลก์และแชร์ รวมทั้งคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ส่วนใหย๋สอบถามถึงลักษณะดวงตาของ องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ว่ามีลักษณะเหมือนกับตาปรือ เหมือน พักผ่อนน้อย หรือบางคนก็บอกว่าอาจจะร้อนแดดเมืองไทย ซึ่งมียอดแชร์ไปกว่า 1,600 แชร์
ล่าสุดวันที่ 6 มี.ค. 67 ที่ตั้งองค์พญาศรีสุทโธนาคราช ซึ่งอยู่ภายในอ่างธวัชชัย ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด นายประเสริฐ สมอุดร ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอธวัชบุรี กล่าวว่า จากกรณีมีดรามาหน้าของพญานาคในเพจเฟซบุ๊กนั้น ตนเองก็มีความคิดเห็นว่าอยากจะปรึกษาหารือกับทางผู้เกี่ยวข้อง เพื่อจะแก้ไขในส่วนที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ เพื่อให้พญานาคองค์นี้มีความสง่างาม ไม่ให้ด่างพล้อย เป็นที่เชิดหน้าชูตาในสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ร้อยเอ็ด
ตนเชื่อว่าหากองค์พญานาคองค์นี้สร้างเสร็จ ก็จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สู่ประตูอินโดจีน เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ.ดร้อยเอ็ดก็จะมาชมปราสาทปรางกู่ และแวะสักการะบูชา องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ด้านนายประพัฒน์ มะนิสา หรือ อาจารย์ปื๊ด ปูนปั้น อายุ 55 ปี ชาวกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์มากว่า 30 ปี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้รับการติดต่อจากอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดให้มาสร้าง องค์พญาศรีสุทโธนาคราช แต่เพิ่งได้มาเริ่มสร้างใหม่เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องหน้าตา องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ให้เหตุผลว่า ตนมีเจตนาที่จะสร้างใบหน้า และดวงตาให้ องค์ปู่เสมือนดูลูกดูหลานที่มาสักการะในมุม 45 องศา ก็เลยต้องทำตาขององค์ปู่นั้นให้ใหญ่ เวลาคนมาสักการะบูชาที่ยืนด้านล่างมองขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นเหมือนตาขององค์ปู่มองมาที่คนสักการะอยู่ ก็เลยออกมาเป็นในลักษณะแบบนี้ แต่หากถ่ายจากมุมสูงด้านบนก็จะทำให้มองเห็นลักษณะเหมือนตาปรือแต่เจตนาของตนคืออยากให้ดูมุม 45 องศา ดูให้เห็นด้วยตาเปล่า
นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า และในระหว่างการก่อสร้างมีเรื่องอัศจรรย์เกิดขึ้นบ่อยครั้งคือมีงูเขียวอยู่หนึ่งตัวอยู่ในบริเวณนั้น ระหว่างก่อสร้างตลอดเวลา ตนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สร้าง องค์พญาศรีสุทโธนาคราช
กว่าจะสร้างมาเป็น องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ตนภูมิใจและเข้าใจ น้อมรับคำแนะนำ หรือว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ ตนยินดีรับฟัง เพราะงานศิลปะเป็นงานที่ทุกคนสามารถชื่นชม หรือวิจารณ์ได้ สำหรับตนถือว่าได้ทำงานเต็มที่แล้วในเวลา 1 ปี 2 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ตนยังเป็นเจ้าของผลงานปั้น พ่อปู่พญาศรีเพชรคีรีมหามุนีศรีสุทโธนาคราช พญานาคราชองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ วัดถ้ำแจง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รวมถึง องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ณ วัดพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อ.เมือง จ.มุกดาหาร และพระพุทธมหาราชานาคาบรีรักษ์ ณ วัดถ้ำผาแด่น ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร
ตอนนี้ องค์พญาศรีสุทโธนาคราช ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 90% คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นเดือน เม.ย. ส่วนกรณีการแก้ไขนั้นคงต้องมีการปรึกษาหารือในส่วนที่เกี่ยวข้องเสียก่อนจึงจะสามารถทำการแก้ไขได้