สลดหนูน้อยวัย 1 ขวบเศษ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามใบหน้า และมีร่องรอยถูกฟันกัด สมองบวมอาการโคม่า แจ้งความคดีไม่คืบ สุดท้ายเพื่อนบ้านทนไม่ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านโซเซียล
ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Nakanty. โพสต์ข้อความระบุว่า “พี่ๆเพื่อนๆในกลุ่มช่วยเด็กด้วยนะคะหนูเจ้าของโพสต์ไม่ได้เป็นอะไรกับเด็กค่ะ แต่เด็กเป็นเด็กแถวบ้านเห็นสภาพแล้วสงสารมากทนดูไม่ไหวจริงๆเด็กถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายสภาพที่เห็นมา 14 ถึง 15 วัน แล้วแจ้งความแล้วคดีก็ไม่คืบหน้าค่ะ ไปสอบถามที่โรงพักได้คำตอบมาแค่ว่าต้องทำตามขั้นตอน ไม่เคยเรียกตัวพ่อเลี้ยงไปรับทราบอะไรเลย คดีแบบนี้เราต้องไปร้องเรียนหน่วยงานไหนคะที่ทำให้คดีคืบหน้าเร็วกว่านี้ค่ะ”
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าว จนทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ เด็กหญิงน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 1 ปี 3 เดือน เข้ารักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 24 ก.พ. 67 หลังจากน้องมีอาการช็อคไม่ได้สติ แพทย์ตรวจพบมีร่องรอยถูกทำร้ายที่ศรีษะอย่างหนักเป็นเหตุให้กะโหลกยุบ และมีอาการเลือดออกในสมอง โดย น.ส.เกศินี มณีรัตน์ อายุ 25 ปี ผู้เป็นแม่ และนายธงชัย นาคกร หรือแบงค์ อายุ 31 ปีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงเป็นคนนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.เกศิริ ผู้เป็นแม่เด็กได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อ พ.ต.ท.หญิงวันทนา เทพธรรม์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีต่อนายธงชัย นาคกร สามีตน และเป็นพ่อเลี้ยง ที่เชื่อว่าบุตรสาวตนถูกนายธงชัยทำร้ายร่างกายโดยเหตุเกิดที่บ้าน ในส ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
ทางด้านนางสาวดาเรศ มณีรัตน์ อายุ 48 ปี ยายของเด็กเล่าว่า วันที่ 24ก.พ. ที่ผ่านมา ลูกสาวตนได้โทรศัพท์มาบอกว่าหลานสาวช็อคหมดสติ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นตนก็ได้ถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงช็อค ลูกสาวก็บอกว่าตัวเค้าเองได้ออกไปซื้อแพมเพิส ขณะนั้นหลานได้อยู่กับนายแบงค์ ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง นายแบงค์อ้างว่าจังหวะที่อยู่ด้วยกันหลานได้อึใส่ที่นอน นายแบงค์จึงได้พาหลานไปวางไว้ในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาทำความสะอาดที่นอนและเมื่อกลับเข้าไปในห้องน้ำพบว่าหลานช็อคหมดสติไปแล้ว ลูกสาวจึงเร่งนำตัวหลานส่งโรงพยาบาล ซึ่งตัวเองก็ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างด้วยที่เหตุ ที่ก่อนหน้านี้นายแบงค์เคยทำร้ายหลานด้วยการใช้ฟันกัดจนเป็นรอยแผลช้ำทั้งตัว และเหตุการณ์ในครั้งนั้นตนก็ได้ถามลูกสาวว่าหลานโดนอะไรมา ลูกสาวก็บอกว่านายแบงค์กัด ตนจึงได้โทรศัพท์ไปถามนายแบงค์ ทีแรกนายแบงค์ก็ปฏิเสธแต่พอตนบอกว่าจะแจ้งความนายแบงค์ก็สารภาพว่าเป็นคนกัดจริง เพราะไม่พอใจที่ลูกเลี้ยงงอแง ตนจึงได้ต่อว่านายแบงค์แต่นายแบงค์ก็ตอบกลับมาว่าขนาดลูกเขาเองเขายังเคยกัดแบบนี้เลย
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้นายแบงค์ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นคนทำ และก่อนจะเกิดเหตุก็ทำหลานของตนตกจากรถจักรยานยนต์ เมื่อ 2 อาทิตย์ ก่อน แต่หมอก็บอกว่าไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ทำให้กะโหลกยุบ เพราะจากการวินิจฉัยร่องรอยการบาดเจ็บคาดว่าน่าจะเกิดก่อนมาโรงพยาบาลไม่นาน ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้ให้ลูกสาวไปแจ้งความที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ขณะนี้ผ่านมากว่า 15 วันแล้ว ทางตำรวจก็ยังไม่เรียกนายแบงค์ไปสอบสวนพอตนไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตอบมาว่า ต้องรอดำเนินการตามขั้นตอนซึ่งตนคิดว่ามันช้าเกินไป อยากจะให้ตำรวจเร่งทำคดีให้เร็วกว่านี้