อากาศร้อนจัด อดีตพระเลขาเจ้าคณะจังหวัด นอนมรณภาพในบ้านร้าง โดยก่อนหน้านี้พระรูปนี้ได้ออกมาอยู่อย่างสันโดษนานแล้ว และจะมีญาตินำอาหารไปถวายเป็นประจำ
วานนี้ (8 มี.ค.67)เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังหิน ได้รับแจ้งมีเหตุพระภิกษุนอนมรณภาพที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านหนองตาพรม หมู่ที่ 2 ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และแพทย์เวร รพ.วังหิน รุดไปยังที่เกิดเหตุเมื่อไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสองชั้นใต้ถุนโล่งลักษณะผุพังบริเวณ ชั้นสองของตัวบ้านพบร่างพระบุญกอง วราสโภ อายุ 76 ปี พระลูกวัดนิวาสสุวรรณาราม ต.ดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษนอนมรณภาพอยู่ในที่เกิดเหตุในท่าตะแคงขวางขาทั้งสองข้าง มือขวากำไม้ยาวประมาณ 1 เมตรไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใดคาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
นายอำไพ บุญคง อายุ 62 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหนองตาพรม หมู่ 2 ซึ่งเป็นหลานของพระบุญคงเล่าว่าก่อนหน้านี้พระบุญคงมีสมณศักดิ์เป็นพระครูอยู่ที่วัดดวนใหญ่ และเคยเป็นพระเลขาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ บวชเป็นพระเมื่อปี 2511 ต่อมา 30 ปี ก่อนมีอาการชอบเก็บตัวอยู่ในกุฎิเพียงรูปเดียวไม่ออกไปไหน พระที่วัดและญาติ ๆ จึงเป็นห่วงและได้พาไปรักษาที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ จ.อุบลราชธานี อาการดีขึ้นและได้กลับมาจำวัดที่วัด ต่อมาได้มีการถอดสมณศักดิ์ออกจากพระครู ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการมีประวัติการรักษาจิตเวชหรือไม่ หลังออกจากโรงพยาบาลแพทย์ก็ไม่ได้ให้ยามารับประทานแต่อย่างใด ก็อยู่แบบนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว พูดจารู้เรื่องปกติทุกอย่าง ความจำดี และเมื่อกลับมาอยู่ที่วัดดวนใหญ่ ได้ไม่นานก็ได้ย้ายมาจำวัดที่นิวาสสุวรรณาราม ก่อนจะออกจากวัดมาอยู่ที่บ้านพ่อบ้านแม่หลังที่ผุพังดังกล่าว ตั้งแต่นั้นมารวม 36 ปี โดยมีญาติ ๆ นำข้าวนำน้ำมาถวาย
ต่อมาทางผู้นำชุมชนหมู่บ้านเห็นสภาพที่อยู่อาศัยผุพังหลังคารั่ว จึงได้แจ้งไปยังอำเภอและจังหวัดมาช่วยเหลือ และได้มีการสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นติดกับบ้านหลังดังกล่าว แต่พระบุญกองไม่เข้าไปอาศัยอยู่ ยังคงอยู่บ้านหลังที่ผุพัง แต่นั้นมาและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6มี.ค. 67ที่ผ่านมาญาติยังคงนำข้าวนำน้ำไปถวายให้ฉันตามปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2567 ตนได้ไปเยี่ยมและได้ร้องเรียกพระบุญกองแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับประกอบกับมีกลิ่นเน่าเหม็น จึงรู้สึกตกใจและพยายามหาทางขึ้นไปส่องดูเพราะบันใดลิงที่อยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าวเมื่อพระบุญกองขึ้นไปบนบ้านแล้วจะดึงบันใดขึ้นไปเก็บเพื่อไม่ให้ใครปีนขึ้นไปข้างบนได้ เมื่อตนขึ้นไปส่องก็พบว่าร่างของพระบุญกองนอนแน่นิ่งสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นตลบอบลอวล ตนจึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นตนเชื่อว่าอาจเป็นเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงที่ผ่านมาส่งผลทำให้ร่างกายอ่อนล้า ประกอบกับโรคชราและไม่ได้ออกกำลังกายอยู่แต่กับที่ จึงอาจเป็นเหตุให้ร่างกายอ่อนแรงและเสียชีวิตโดยไม่มีใครพบเห็นดังกล่าว ซึ่งญาติก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด