จากกรณีนายธนบดี จิตตา อายุ 21 ปี อาชีพซื้อขายรถยนต์เเจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่าถูกกลุ่มบุคคลประมาณ 6 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจอุ้มรีดทรัพย์ เสียหายกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด โดยระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กลุ่มผู้ต้องหาได้ตะโกนขอให้นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ ช่วยเหลือ เพราะเคยถูกโกงจากนายธนบดีเช่นกันเดียวกัน กระทั่งมี 1 ใน 6 ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว
ล่าสุด (7 ส.ค.)
นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ พร้อมด้วยน้องชาย ได้เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศเวลา 18.45 น. ว่าเรื่องที่ผู้ต้องหาตะโกนขอความช่วยเหลือ ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้บงการ หรือเป็นหัวหน้าแก๊งอุ้ม ตนแค่อยากให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากมีผู้ที่ถูกนายธนบดีหลอกหลายราย ภายหลังจากมีข่าวก็มีคนทักเข้ามายังเฟซบุ๊กเพื่อให้ตนช่วยเหลือ เมื่อตนเห็นภาพข่าวจึงจำได้ว่า เป็นคนเดียวกับที่หลอกตน ยอมรับว่ารู้จักกับนายธนบดีจริง ซึ่งตนคิดว่านายธนบดีเป็นคนหัวหมอ โดยนายธนบดีทักเฟซบุ๊กมา พร้อมอ้างว่าเป็นหลาน
ชัช เตาปูน ซึ่งมีการนัดเจอ และเลี้ยงอาหารหลายครั้ง รวมเป็นเงินนับแสนบาท ส่วนที่หลายคนมักโดนนายธนบดีหลอกคงเพราะคำพูดนายธนบดีที่ฟังแล้วน่าเชื่อถือ ซึ่งนายธนบดีชอบอ่านหนังสือจิตวิทยาอีกด้วย
เสี่ยโป้ บอกอีกว่า นายธนบดีหลอกขายรถยนต์
โตโยต้า เอ็มอาร์เอส ชุดแต่งเฟอรารี่ ราคา 320,000 บาท ให้น้องชายตน แต่หลังโอนเงินกลับไม่ได้เล่มรถ แต่ได้ตัวรถ ซึ่งพอมาขับก็มีปัญหา ตนจึงพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนทราบว่านายธนบดี อยู่ที่ร้านคาราโอเกะ ตนจึงตามไปทวงเงินค่ารถก่อนนำตัวไปแจ้งความที่ สน.เตาปูน แต่นายธนบดี กลับแจ้งความว่าตนพยายามจะอุ้มฆ่า ตนจึงเปิดหลักฐานให้ตำรวจดู เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีการทำร้ายใดๆ เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้รับแจ้งความ
ทั้งนี้ ตนคิดว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ต้องการจะอุ้มฆ่า แต่คิดว่าเคยถูกหลอกเอาเงินหรือหลอกซื้อรถ จึงต้องการเอาคืน เพราะถ้าผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นแก๊งอุ้ม เชื่อว่านายธนบดีไม่มีสิทธิ์ได้รอดชีวิตกลับมา สำหรับเรื่องคดีก็ได้ไปแจ้งความที่สน.เตาปูน แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ส่วนที่นายธนบดีอ้างว่าอยู่ในวงการเต็นท์รถมานานถึง 14 ปี นั่นแสดงว่าเข้าวงการรถมาตั้งแต่ 7 ขวบ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้
ขณะที่
นายณัฐวุฒิ สุดธนกิจ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของอู่ไฟเบอร์ ได้แต่งรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น เอ็มอาร์เอส สีเหลือง พร้อมชุดแต่ง ก่อนนำรถไปฝากขายที่เต็นท์ เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.59 พอเห็นว่าขายไม่ได้ จึงสอบถามไปยังเต็นท์ เพื่อขอรถคืน แต่ปรากฎว่ารถได้หายไป หลังจากรถถูกขาย ทางเต็นท์ก็ทราบว่าผู้ที่ขายคือ นายธนบดี ตนจึงโทรศัพท์สอบถาม นายธนบดีอ้างว่า เจ้าของเต็นท์รถ นำรถไปจำนำไว้กับเจ้าของผับ เป็นรถหลุดจำนำ จึงให้นายธนบดีนำไปขายต่อ พอจะขอเบอร์เจ้าของผับ กลับบอกว่าให้รออีก 3 วัน เดี๋ยวไปเอารถกับเจ้าของที่ชื่อเล็กกับติ๋ม ก่อนที่จะติดต่อกลับมาว่าาขณะนี้กำลังยุ่งเรื่องคดีอุ้มรีดทรัพย์
จนตนทราบข่าวที่เสี่ยโป้ เกี่ยวกับซื้อรถที่ถูกขโมยมาเป็นรถยนต์ ที่คล้ายกับรถของตน พร้อมบอกว่า ผู้ซื้อไปเป็นน้องชายของเสี่ยโป้ จากนั้นตนจึงคุยกับเสี่ยโป้ และเล่าความจริงให้ฟัง ว่าตนเป็นเจ้าของตัวจริงของรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเล่มรถตัวจริงอยู่กับตน จนทางเสี่ยโป้ยินดีที่จะคืนรถให้ โดยตอนนี้เต็นท์รถที่เกิดเรื่องก็กลายเป็นเต็นท์ร้าง และรถอีกหนึ่งคันที่ตนได้นำไปฝากไว้ก็หายไปด้วย
อีกหนึ่งผู้เสียหาย คือ
อีฟ (นามสมมติ) บอกว่า ตนรู้จักกับนายธนบดี ผ่านทางเฟซบุ๊กซึ่งมีการแอบอ้างว่ารู้จักกับ
ชัช เตาปูน ทำให้ตนรู้สึกเชื่อถือ จึงซื้อรถเบนซ์ผ่านนายธนบดีในราคา 1.1 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ได้โอนเงินมัดจำ 5 หมื่นบาท พร้อมนำรถมาให้ แต่กลับไม่มีเล่มทะเบียน และก็จ่ายเงินสดให้ไปให้อีก 650,000 บาท วันเดียวกันนายธนบดีได้ชวนไปงานเลี้ยงรุ่นที่หัวหิน พร้อมพักที่รีสอร์ท โดยเช้าวันต่อมา นายธนบดีได้มาเคาะประตูที่ห้อง พร้อมบอกว่าจะไปซื้อข้าวให้ ตนจึงฝากซื้อ และไม่ได้ล็อกประตูห้อง ขณะตนอาบน้ำนายธนบดีกลับเข้ามาที่ห้องพัก พร้อมตะโกนบอกว่าซื้อโจ๊กมาให้ และกลับออกไป เมื่อตนออกจากห้องน้ำพบว่า กุญแจรถเบนซ์ เงินสด 5 หมื่น รวมถึงนายธนบดีหายไป และไม่สามารถติดต่อได้ จนนายธนบดีติดต่อกลับมาหา พร้อมบอกว่า
"ช่วยไม่ได้ มึงโง่เอง" ทางคุณอีฟจึงคิดว่า เพราะโจ๊ก 1 ถุง เจอไป 750,000 บาท พร้อมกับได้แจ้งความเรื่องลักทรัพย์
ทาง
นายท็อป (นามสมมติ) ผู้เสียหาย บอกว่า นายธนบดี ได้นำเสนอขายรถแลมโบกินี่ ในราคา 4 ล้านบาท ตนก็ได้สอบถามพร้อมได้ลองขับรถยนต์ และตัดสินใจซื้อ ตอนนั้นธนบดีพยายามหว่านล้อมให้โอนค่ามัดจำรถจำนวน 300,000 บาท ตนก็ได้โอนเงินไปยัง 3 บัญชี ซึ่งมีบัญชีของธนบดี และบัญชีของหญิงสาวอีก 2 คน พอติดต่อนายธนบดีได้ก็บอกว่า จะไปตามเงินจากที่ไหนก็ไปตาม และตนก็ตามเจอซึ่งผู้หญิง 2 คนที่ตนโอนเงินให้ก็ถูกนายธนบดีหลอก ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร
ขณะที่
เน วัดดาว เน็ตไอดอลชื่อดัง เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับธนบดี จากการแนะนำของเสี่ยโป้ ซึ่งนายธนบดีได้ขายฝัน ด้วยการแนะนำให้ตนลองเริ่มทำธุรกิจ ตนจึงบอกว่า อยากทำร้านสัก แต่ธนบดีไม่เห็นด้วย พยายามพูดโน้มน้าวให้ตนทำธุรกิจซื้อขายรถ แต่ตนบอกว่าไม่ถนัด ธนบดีจึงบอกว่า การที่จะให้คนอื่นก้าวไปข้างหน้า เราต้องเดินนำหน้าคนอื่นก่อน เรียกว่าทำให้ตนฉุดคิด ซึ่งนายธนบดียังแสดงน้ำใจด้วยการจะช่วยเรื่องที่ตนเป็นหนี้ 3 - 5 แสน แต่ตนไม่รับ ซึ่งเสี่ยโป้คอยเตือนว่าอย่าไปยุ่งกับนายธนบดี เพราะรู้มาว่าเงินที่นายธนบดีจะช่วย เป็นการยืมเงินเสี่ยโป้ไป