แม่ ไอ้นายเปิดใจ “อมรินทร์” ไม่รู้ไม่เห็นวันฆ่า น้องสา แจงปมกู้ยืมเงินหลักหมื่นไม่ถึงแสน ร่ำไห้วอนลูกชายมอบตัว กลัวโดนวิสามัญ
จากกรณี นายพิทญา หรือ ไอ้นาย อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น้องสา อายุ 32 ปี สาวเมียนมา ดาว TiKTok แล้วหมกศพในบ่อน้ำ หลังกุฎิร้าง ภายในวัดท้าวโคตร อ.เมือง จ.นครศรีรรมราช จากนั้นนำสร้อยทองของผู้ตายไปขายที่ร้านทอง ก่อนหลบหนีไปในพื้นที่ จ.กระบี่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 12 มี.ค. 67 นางสาว แม่ของ ไอ้นาย เปิดใจกับทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ถึงกรณีที่มีข่าวว่าได้ไปยืมเงิน น้องสา ผู้เสียชีวิตกว่า 100,000 บาทนั้นว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งนำสมุดที่มีการจดการกู้ยืมเงินกับ น้องสามาให้ทีมข่าวดู
โดยนางสาว บอกว่า เริ่มกู้เงินจาก น้องสาในเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว จำนวนเงิน 10,000 บาท โดย น้องสาคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 และจะมาเก็บที่ตนทุกวัน วันละ 250 เป็นระยะเวลา 60 วัน ที่ผ่านมาก็กู้ยืมเงินมาเรื่อยๆ ครั้งละไม่เกิน 10,000 บาท กระทั่งช่วงเดือน ม.ค. ตนจ่ายไม่ไหว น้องสาจึงลดให้เหลือวันละ 150 บาท ซึ่งตนก็จ่ายมาโดยตลอด ส่วนในเดือน มี.ค. ยืนยันว่า น้องสายังไม่ได้มาเก็บเงินกับตนสักบาทเดียว โดยยอดในขณะนี้ที่คงเหลืออยู่ 6,000 บาท ยืนยันว่าคงค้างแค่ยอดเท่านี้ ส่วนของลูกชาย ตนไม่ทราบว่าจะไปมีการกู้ยืมเงินจากทาง น้องสาอย่างไรบ้าง
ในวันที่เกิดเหตุตนเห็นว่า น้องสาได้ขี่รถบิ๊กไบค์คันสีชมพูมาจอดบริเวณหน้าร้านช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. หลังจากนั้น น้องสาก็เดินไปในห้องของลูกชาย ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่า สาเหตุที่ น้องสามาหานั้นจะมาคุยเรื่องเงิน หรือทั้งคู่ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่หรือไม่ หลังจากนั้นตนก็เข้านอน ยอมรับว่าห้องนอนของตนอยู่ไม่ไกลจากลูกชาย ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงของ น้องสาพูดว่า “อย่าเข้ามา” หลังจากนั้นตนก็หลับ และไม่ได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งรุ่งเช้าตนจึงถามลูกชายว่า น้องสาไปไหน ลูกชายก็บอกว่า น้องสากลับแล้ว เดี๋ยวตนจะขี่รถบิ๊กไบค์กลับไปให้ น้องสาที่บ้าน ซึ่งลูกชายจะไปก็มีสีหน้าปกติ และไม่ได้มีการมาปรึกษาอะไรกับตน เพียงแต่บอกว่าจะไปทำงานต่างจังหวัดเท่านั้น
นางสาว กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการตั้งคำถามว่า อาจจะมีคนร่วมอำพรางศพมากกว่าหนึ่งนั้น ในส่วนนี้ตนคิดว่าลูกชาย น่าจะเป็นคนก่อเหตุ และอำพราง น้องสาเพียงคนเดียว เพราะตัว น้องสาก็ไม่ได้ใหญ่มาก เพียงแต่เป็นคนที่หน้าอกใหญ่สะโพกบึ้มเท่านั้น เคยเห็นลูกชายอุ้ม น้องสามาแล้ว ส่วนที่มีข่าวลือว่า มีคนจุดตะเกียงไข่เป็ด พร้อมกับธูปไปขอขมาทุกวันที่บ่อทิ้ง น้องสา ในส่วนนี้ไร้สาระและปัญญาอ่อน ตนพร้อมสาบานกับหิ้งพระในบ้านเลยว่าไม่ได้รู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังเดินไปตลาดทุกวัน ก็ยังไม่รู้ว่าศพของ น้องสาอยู่ในบ่อ
ส่วนที่มีประเด็นว่าลูกชายตนติดการพนันนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ลูกชายนั้นเล่นมาหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาที่บ้านก็มีรถหลายคันลูกชายก็เอารถไปขาย จนทุกวันนี้ที่บ้านแทบจะไม่เหลืออะไรเลย ที่ผ่านมาก็เคยบอกให้ลูกชายเลิกเล่น แต่ลูกชายก็ไม่ยอมเลิก โดยครั้งที่แล้วลูกชายเคยเล่นพนันได้มากที่สุดก็เป็นหลัก 100,000 กว่าบาท แต่พอยิ่งถูกก็ยิ่งเล่นจำนวนมากขึ้นไปอีก
ส่วนเด็กผู้หญิงที่เห็นว่าลูกชายพาไปร้านทองเมื่อวันที่ 4 มี.ค. นั้นคือลูกติดกับภรรยาคนแรกของลูกชาย ซึ่งทั้งคู่ก็ได้เลิกรากันไปหลายปีแล้ว ก่อนที่จะมาคบกับ น้องสา โดยสาเหตุที่ลูกชายและลูกสะใภ้คนแรกที่เลิกกัน เพราะตอนนั้นลูกชายไม่ได้ทำงาน เนื่องจากต้องเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน แล้วลูกสะใภ้ไปทำงานจึงไปเล่นชู้ ก่อนลูกชายตนจะจับได้ และเลิกรากันไป ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ติดต่อ ส่วนหลานนั้นตนเองก็เป็นคนเลี้ยง
จากนั้นนางสาว กล่าวทั้งน้ำตาา “หากลูกชายฟังอยู่ก็อยากให้ลูกชายกลับมามอบตัว แม่จะให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่าง แม่อยากให้ลูกกลับตัวกลับใจมารับผิดทุกอย่าง เพราะสิ่งที่ตนเองกลัวที่สุดก็คือกลัวว่าลูกชายจะถูกวิสามัญ รักลูกชายคนนี้มาก ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้”
พร้อมขอโทษไปถึงญาติของ น้องสากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนแรงจูงใจแม่ก็ไม่รู้เพราะว่าลูกชาย พออยู่กับตนเองก็อาจจะเป็นอีกคนหนึ่ง แต่พออยู่กับ น้องสา อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง