"บิ๊กเต่า" ไม่กังวล "บิ๊กโจ๊ก" ฟ้องหมิ่น ถ้าคิดว่าตัวเองถูกก็งัดหลักฐานออกมาสู้ อย่าขู่รำคาญ รู้ดีว่ากำลังรบกับใคร ยืนยันว่าทำตามกระบวนการยุติธรรม
15 มี.ค 67 ที่ตึกพิทักษ์สันติ ชั้น 27 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บ.ช.ก.) พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดเผยถึงประเด็นที่ทาง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฟ้องหมิ่นประมาท กรณีเปิดเผยข้อมูลสำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยว่า ตนไม่ได้กังวล เพราะตนทำตามพยานหลักฐานที่มีทำด้วยความตรงไปตรงมาแต่ถ้าเรื่องไปถึงศาลสถิตยุติธรรม ตนเชื่อว่าจะดำเนินการไปด้วยความถูกต้องและยุติธรรม และตนมองว่าเรื่องนี้น่าจะยาว สื่อมวลชนมีงานทำทั้งปีแน่นอนต้องรอชม และตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเป็นบุคคลที่รักษากฎหมายและทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินการด้วยพยานหลักฐานเป็นหลัก และตนไม่ได้อยากทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร
แต่ตนมองว่าตอนนี้ตนทำหน้าที่ตำรวจที่ต้องรักษาความยุติธรรมขององค์กรตำรวจ กวาดล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากองค์กรตำรวจให้อยู่ในพื้นฐานของความยุติธรรม สาเหตุที่ตนออกมาให้ข่าวหรือออกมาแถลงต่างๆ ตนมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน เพราะฉะนั้นใครทำไม่ดีเป็นคนชั่วไม่มีความยุติธรรมก็ควรออกจากองค์กรตำรวจไป และไม่ต้องมาขู่ว่าทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ถ้าคิดว่าตัวเองถูกต้องก็งัดหลักฐานออกมาสู้กันเลย อย่ามีเพียงแต่ขู่อย่างเดียวตนรู้สึกรำคาญ ถ้าสิ่งที่ตนออกมาพูดแล้วเป็นสิ่งที่ผิดตนก็ยอมติดคุกอยู่แล้ว
และขอยืนยันทุกเรื่องที่พูดออกมาและเปิดเผยต่อสาธารณะชนเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ไม่มีการแต่งเรื่องใดๆทั้งสิ้นพูดตามหลักความเป็นจริงและพยานหลักฐาน และตนไม่มีความกังวล และตอนนี้ตนรู้ดีว่าตนกำลังรบกับใคร ซึ่งตนเปรียบว่าตอนนี้ตนกำลังรบอยู่กับกับพญามาร ตนก็ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่จะกลับมาหาตนค่อนข้างที่จะเยอะ แต่ตนก็ไม่ได้หวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้ ยังยืนยันว่าทำตามกระบวนการยุติธรรม
ส่วนประเด็นเมื่อวานทาง พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนว่า ที่ทางตนโดนฟ้องไม่ขอยุ่งเกี่ยวเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และไม่ได้กระทบกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนส่วนกลาง ตนไม่ได้โกรธหรือคิดว่านายทิ้ง แต่ตนเข้าใจดีเพราะว่าตนกับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเคยคุยกันมาก่อนแล้วว่าถ้ามีคดี แบบนี้จะไม่ทำให้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เสียหายตนเข้าใจดี ตนถึงได้เข้าไปเป็นคณะทำงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะว่าตนเสนอที่จะไปทำคดีนี้เอง
และเรื่องที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้นำข้อมูลไปเปิดเผยตามที่ต่างๆ ตนก็เคยคุยกับนายอัจฉริยะแล้วว่า ข้อมูลที่นายอัจฉริยะนำไปเปิดเผย เป็นแค่ปลีกย่อยของหลักฐานเท่านั้น จึงไม่กระทบต่อหลักฐาน แต่ก็จะคุยกับนายอัจฉริยะอีกว่า ให้เบาๆลงหน่อย แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นจุดประสงค์ของทางด้านนายอัจฉริยะเท่านั้น