แม่แค้นไอ้หื่นขืนใจ ลูกสาววัย 13 ปีปรี่จะตบหน้า ก่อนก้มกราบเท้าขอโทษ

รวบไอ้หื่น ขืนใจ ด.ญ.วัย 13 ปี ลวงพาไปเปิดรีสอร์ต ยังปากแข็งแค่ลูบไล้ไม่ได้ขืนใจ พร้อมก้มกราบเท้าขอโทษแม่เด็ก

วันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังจับกุม จับนายปัญญา เหนือจำทิศ หรือบอล อายุ 40 ปี ภายในบ้านบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี 

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามโดยปราศจากเหตุอันสมควร, พรากเด็กอายุไม่เกินสืบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร”

 สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 นางเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี นำ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความกับตำรวจ  สภ.เมืองอุดรธานี ว่า คืนวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา น.ส.ดรีม อายุ 15 ปี เพื่อนรุ่นพี่มาขออนุญาตพา ด.ญ.บี ไปดูหมอลำ โดยมีนายบอล ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง  อายุ 40 ปี ขับรถกระบะมารับ แต่กลับพา ด.ญ.บี ไปนอนที่รีสอร์ต และอาศัยช่วงจังหวะที่น.ส.ดรีม ออกไปกับเพื่อนชาย และปล่อยให้ ด.ญ.บี อยู่กับนายบอล สองต่อสอง โดยนายบอลได้ดื่มเบียร์ ก่อนใช่กำลังข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี 1 ครั้ง วันต่อมาลูกได้เล่าให้พี่สาวและพี่ชายฟัง จึงได้สอบถามและพามาแจ้งความดำเนินคดี

โดยตำรวจได้ส่ง ด.ญ.บี ไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืนที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

แต่เมื่อลงจากรถยนต์ แม่ ด.ญ.บี ซึ่งยืนรอดูหน้าผู้ต้องหา ได้ปรี่จะเข้าไปตบหน้านายปัญญา  พร้อมกับถามว่า “มึงทำลูกกูทำไม เด็กตัวเล็กแค่นี้ มึงทำลูกกูทำไม” แต่ตำรวจกันเอาไว้ก่อนและบอกให้ใจเย็น ๆ

ขณะที่นายปัญญา อ้างว่า รู้จักกับ น.ส.ดรีม เพราะชอบรถแต่งเหมือนกัน แต่วันเกิดเหตุ น.ส.ดรีม ได้ชวนตนไปรับ ด.ญ.บี (ผู้เสียหาย) ที่บ้านเพื่อไปดูหมอลำ พอรับ ด.ญ.บีออกมาจากบ้าน แต่กลับไม่ได้ไปดูหมอลำ ได้ชวนกันไปเปิดรีสอร์ตเพื่อรอเพื่อนอีกคน หากไปส่ง ด.ญ.บีที่บ้าน จะออกมาไม่ได้อีก  โดยตนเป็นคนเปิดรีสอร์ตเอง โดยได้ขับรถยนต์กลับไปจอดที่บ้าน แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่รีสอร์ต ให้ น.ส.ดรีม ยืมขี่ไปรับเพื่อนอีกคน  และปล่อยให้ตนอยู่กับ ด.ญ.บี สองต่อสอง ซึ่ง ด.ญ.บี นั่งเล่นโทรศัพท์ ตนจึงบอกน้องปิดไฟนอน แล้ว ด.ญ.บี ก็มานอน ซึ่งตนขอปฎิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน ด.ญ.บี แค่ กอดจูบ ลูบคำ ไม่ได้สอดอวัยวะเพศใส่หรือสำเร็จความใคร่เลย และตนก็ไม่ทราบอายุของ ด.ญ.บี เลย

หลังให้การเสร็จ นายปัญญา ได้ยกมือไหว้ กราบเท้าขอโทษแม่ ด.ญ.บี ถึง 2 ครั้ง พร้อมกับอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรน้อง ไม่มีอะไรกับน้องจริง ๆ แต่เนื่องจากสถานการณ์มันบังคับให้ตนอยู่กับน้องสองคน ทำให้เกิดเรื่องขึ้น อาจ จะเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป จะทำตบตีหรือทำร้ายตนก็ได้  ซึ่งนางเอได้กำมือเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ ไม่ได้พูดและไม่โต้ตอบอะไร แม้แต่คำว่ายกโทษให้

ขณะที่แม่ ด.ญ.บี เล่าว่า รู้สึกดีใจและปลอดภัย ที่ตำรวจจับตัวคนก่อเหตุได้ ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกสาวแย่มาก  ต่อไปก็คงไม่ให้ลูกสาวออกไปไหนตามลำพังอีกแล้ว อยากถามผู้ต้องหาว่า ทำได้อย่างไร ลูกตนมีอายุเท่ากับลูกสาวของผู้ต้องหาเลย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ด้านนายใหญ่ นามสมมติ อายุ  66 ปี พ่อนายปัญญา เล่าว่า พึ่งรู้เรื่องเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว รู้สึกเสียใจมาก ขอโทษครอบครัวผู้เสียหายด้วย เป็นเพราะสันดานไม่ดีของลูกที่ก่อเหตุ เพราะลูกโดนจับคดียาเสพติดพึ่งจะประกันตัวออกมา  ยังไม่เสร็จเรื่องก็มาก่อเรื่องอีก “ไม่น่าทำแบบนี้ ทำให้พ่อแม่เสียใจ”