“ทราย เจริญปุระ” โพสต์อาลัยถึง “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ที่เสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย 54 ปี จากภาวะความดันตกและติดเชื้อในกระแสเลือด หลังรักษาตัวโรคตุ่มน้ำพองมาหลายปี
โดยล่าสุดวันนี้ 21 มี.ค. 2567 “ทราย เจริญปุระ” โพสต์อาลัยถึง “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ว่า
"เราทำงานกับพี่เมฆบ่อยมาก น่าจะเป็นนักแสดงชายที่ได้ร่วมงานกันบ่อยที่สุด ทั้งอตีตา รอยไถ เสือสั่งฟ้า แต่เรื่องแรกก็คือนางนาก"
"ยังจำวันที่เด๋อๆ ด๋าๆ ไปนั่งรอแคสบทที่ออฟฟิศพี่อุ๋ยแล้วเจอพี่เมฆที่มาแคสเหมือนกัน ได้อวยพรกันให้ต่างคนต่างโชคดี ขอให้ได้งานนี้กันนะ ในช่วงเวลานั้น ถ้าได้เล่นนางนากก็จะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราทั้งสองคนได้มีผลงานที่แปลกออกไป เราเองไม่เคยเล่นหนังเลย ทำงานมาได้ 3-4 ปี จะเป็นเด็กสาวน่ารักก็ไม่ได้ จะไปต่อทางไหนก็ยังมองไม่เห็นทาง พี่เมฆเองยังพูดขำๆ ว่าจะออกจากวงการแล้วเนี่ย ไม่มีใครเรียกแล้ว"
"จริงๆ ตอนแรกบทอ้ายมากจะหลุดจากพี่เมฆไปเป็นนักแสดงท่านอื่นแล้ว ขนาดไปเทสต์ฟิล์มกันแล้วเรียบร้อยกับอีกคน แต่สุดท้ายพี่อุ๋ยก็ตัดสินใจให้เป็นพี่เมฆ ทำงานกันไป ปลอบใจกันเองไปว่านึกไม่ออกเลยนะ ว่าใครจะมาดูหนังที่คนตัวดำๆ ผมสั้นๆ นุ่งห่มสีมอๆ เล่นกันอยู่แทบจะสองคนทั้งเรื่อง แต่ถ้าจะมีคนมาดู จะบังเอิญซื้อตั๋วหรือได้แจกฟรีมา ก็อย่าให้เขาด่าได้ ว่าพระนางมันเล่นแสนจะห่วยแตก เราก็เต็มที่กันเนอะ"
"พี่เมฆเป็นคนเต็มที่จริงๆ ไม่เกี่ยงงอน ตั้งแต่ตอนนางนากแล้ว และแกบอกว่าทุกเรื่องหลังจากนางนากคือของขวัญสำหรับแก สำหรับคนที่คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เล่นอะไรในวงการแล้ว จะเรื่องอะไรเข้ามาแกสู้หมด เต็มที่แล้วจริงๆ นะพี่นะ ขอบคุณมากๆ และดีใจอย่างยิ่งที่เราได้ร่วมงานกัน"
นอกจากนี้ยังโพสต์อีกว่า "น่าแปลกที่ภาพที่เราจำพี่เมฆได้กลับไม่ใช่ในบท แต่เป็นวันที่แม่เรากำลังขับรถพาไปกองนางนาก แล้วเจอรถสปอร์ตเล็กๆ คันหนึ่งขับอยู่ข้างหน้า มุ่งไปทางเดียวกัน แม่บอกเนี่ย ตาเมฆเขาชมวิว เราซึ่งตอนนั้นไม่ได้ขับรถเองก็ถามแม่ว่าจริงเหรอ จำได้เลยเหรอ แม่บอกใช่ เขาขับเปิดกระจกกินลมนี่แหละ เดี๋ยวแม่จะแซงนะ ถนนเล็กๆ ที่สิงห์บุรีแบบนั้น แม่บีบแตรปิ๊นแล้วแซงขึ้นไป กดกระจกเรียกเมฆ ! แม่แซงละนะ พี่เมฆก็หัวเราะแล้วโบกมือให้นำไปก่อนเลย จำรอยยิ้มแกวันนั้นได้จริงๆ"
"นี่คือเจอแกบ่อยจนจำส่วนสูงแกได้อะ นึกออกมั้ยว่าเวลาเราเล่นคู่ใคร เราจะต้องหันไปมองเขาเวลาเข้าฉากด้วยกันกับพี่เมฆคือเหมือนล๊อคเฟรมอายไลน์เราได้เลย"