รวบพระลูกวัดอ้างเป็นหลวงพ่อเมาคาผ้าเหลืองกลางสถานีรถไฟ ซ้ำยังหลอกคนจ่ายเงินเป็นค่าบวช และไปซื้อเหล้ามาให้ ก่อนถูกจับสึก
ช่วงเย็นวันที่ 21 มีนาคม 2567 ตำรวจสายตรวจสภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมพร เสนาะคำ อายุ 29 ปี ว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งเมาสุรา นอนอยู่ที่สถานีรถไฟอำเภอชะอำ ไม่ยอมกลับวัด และหลอกลวงเงินตน
ที่เกิดเหตุทพบพระวิไล อายุ 52 ปี พระลูกวัดห้วยน้ำเค็ม อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมาในสภาพเมาสุรานอนอยู่ที่ชานชราสถานีรถไฟอำเภอชะอำ
เมื่อพระพระวิไลเห็นตำรวจก็ทำหน้าตกใจ จึงขอตรวจสอบใบสุทธิ แต่พระวิไล ไม่มีมาแสดง และอยู่ในอาการเมาสุรา จึงนำตัวไปส่งให้พระอธิการอำนาจฐานิสโรรักษาการเจ้าคณะตำบลเขาใหญ่ เจ้าอาวาสวัดชะอำคิรี ก่อนตรวจสอบไปที่เจ้าอาวาสวัดห้วยน้ำเค็มพบว่าเป็นพระลูกวัดจริง
สอบถามนายสมพร เล่าว่าตนนั่งรถไฟมาที่เที่ยวหาดชะอำ มาเจอพระวิไลที่สถานีรถไฟอำเภอชะอำ จากนั้นตนนั่งรถไฟไปนครปฐมก็เจอพระวิไลอีก โดยมีชายอีก 2 คนมาด้วย
โดยพระวิไล อ้างตัวเป็นหลวงพ่อ เข้ามาถามว่า อยากบวชไหม จึงตอบว่า ยากบวช จากนั้นพระวิไล ก็หลอกให้ไปซื้อเหล้าขาวมาให้ และหลอกให้ซื้อตั๋วรถไฟจนเงินหมดตัว
แถมยังบอกอีกว่า ถ้าจะบวชให้เอาเงินมาให้ 4,000-7,000 บาท เพื่อเป็นค่าบวชจากนั้นได้พาตนออกจากสถานีรถไฟนครปฐมไปวัดแห่งหนึ่งที่สถานีรถไฟโคราชแล้วแจ้งกับทางวัดที่พาตนไปบวช และเปลี่ยนคำพูดว่าตนอยากบวชเอง ทั้ง ๆ ที่พระวิไล หลอกเอาเงิน จนกระทั่งพานั่งรถไฟกลับมาที่ สถานีชะอำ จึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบว่าพระวิไล เป็นพระจริงหรือไม่ ก่อนจะถูกจับกุม
เบื้องต้นพระอธิการอำนาจฐานิสโรรักษาการเจ้าคณะตำบลเขาใหญ่ เจ้าอาวาสวัดชะอำคิรี ได้ว่ากล่าวตักเตียน และทำการสึกพระวิไล เนื่องจากอาบัติผิดวินัยสงฆ์ดื่มสุรา ก่อนพระวิไล ส่งคืนสบงจีวรบาตรพระให้แก่ทางวัดชะอำ