พลทหารหนุ่มกระโดดตึกสาหัส ถูกรุ่นพี่ในค่ายกดขี่ข่มเหง

22 มี.ค. 67

พลทหารหนุ่มคิดสั้นกระโดดตึกเจ็บสาหัส หลังถูกรุ่นพี่ในค่ายทหารกดขี่ข่มเหงอย่างหนัก

 

จากกรณีที่มีเพจที่ซ้อขยี้ข่าวได้โพสต์ข้อความ หนุ่มคนนึงส่งไลน์หาญาติเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกรุ่นพี่ในค่ายทหารกดขี่ข่มเหงอย่างหนัก จนต้องคิดสั้นกระโดดตึก อาการล่าสุด อยู่ ICU ใช้เครื่องปั๊มหัวใจ เหตุเกิดปราจีนบุรี

โดยภายในรูปภาพเป็นข้อความที่แชตของหนุ่มรายดังกล่าวที่ส่งข้อความไประบายความในใจกับเพื่อน ก่อนก่อเหตุโดดตึกภายในค่ายทหาร เบื้องต้นได้รับรายงานว่าหนุ่มรายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ล่าสุด เมื่อเวลา 10:00 น.วันที่ 22 มีนาคม 2567 ทางพลทหารเต้ย คนที่กระโดดตึกยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้อง ICU ของโรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีแม่เดินทางมาเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด

เบื้องต้นจากการสอบถามน้องสาวพลทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่ามีคนโทรศัพท์เข้ามาหาพ่อกับแม่ประมาณ 2 เกือบ 3 ทุ่มว่าพี่ชายกระโดดลงมา แต่ว่าพอไปถึงเขาบอกว่ากระโดดตั้งแต่ 6 โมง แต่ว่าเพิ่งโทรมาบอก ซึ่งตนไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้โดนอะไรหรือไม่ ตามที่พี่ชายบอกและพิมพ์มาหาก็ช่วงบ่าย 3 ถึง 5 โมง ที่บอกว่าช่วยพี่ด้วย และก็มีเพื่อนบางคนพูดว่าพี่ชายตนมีปัญหาครอบครัว มีปัญหาเรื่องเงินและไปยืมเงินรุ่นพี่ไม่

ตนยืนยันว่าไม่มี วันก่อนเพื่อนพี่ชายที่อยู่โรงพยาบาล จึงถามว่าพี่ตนไปยืมเงินใคร เพื่อนก็บอกว่าไม่มี เพราะว่าตอนไปกวาดลานยังเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเพื่อนอยู่เลย จะไปยืมเงินคนอื่นทำไม ซึ่งตนไม่เชื่อว่าพี่ของตนจะเป็นคนกระโดดลงมาเอง เพราะพี่เป็นคนร่าเริง ซึ่งตอนที่พี่ชายกลับมาพักเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก็ยังปกติออกไปเตะบอลกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน

เบื้องต้นมีทางหน่วยงานของพี่ชายเข้ามาพูดคุยกับแม่ของตนที่โรงพยาบาล ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร ตนหวังเพียงแค่ว่าอยากให้พี่ชายหายปกติกลับมาเหมือนเดิมแค่นั้น

ทางด้านนางติ๋ม อายุ 46 ปี แม่ของพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ลูกตนโดดจากอาคารลงมาตอน 18:00 น. แต่ได้รับแจ้งจากทางจ่าโทรมาบอกตอน 21:00 น. ก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลตอนประมาณ 22:00 น.ก็ไม่สามารถที่จะเข้าเยี่ยมได้แล้ว เพราะทางลูกของตนมีอาการหนัก กะโหลกเปิดบริเวณศีรษะมีเลือดออกตลอดเวลา ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้ให้เลือดกับทางลูกของตนแล้ว โดยมีอาการ 50: 50 ซึ่งก่อนที่ทางลูกชายของตนจะโดดฆ่าตัวตายนั้น มีการได้พูดคุยกับทางลูกสาว แต่ไม่ได้คุยกับตน โดยบอกกับทางลูกสาวว่า ลูกชายถูกรุ่นพี่กดขี่ข่มเหง

ซึ่งทางลูกสาวก็ถามกลับลูกชายว่าโดนกดเรื่องอะไร ทำไมไม่แจ้งจ่า ทางลูกชายก็ตอบกลับมาว่าแจ้งไม่ได้ พอเวลา 5 โมงเย็นทางพ่อก็โทรหาลูกชาย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ลงมาตรวจเยี่ยมลูกชายแล้วแ ละได้แจ้งว่าจะทำการย้ายโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา แต่ยังไม่ได้แจ้งว่าจะย้ายไปโรงพยาบาลไหน ส่วนโทรศัพท์ของลูกชายนั้นตอนนี้ไม่สามารถที่จะเปิดได้เพราะติดล็อกอยู่ไม่ทราบรหัส ส่วนเรื่องที่ลูกชายของตนโดดนั้น ตนก็ยังคาใจอยู่ว่าโดดเพราะอะไรสาเหตุอะไร ตอนนี้ก็ขอภาวนาเพียงอย่างเดียวว่าขอให้ลูกหายเป็นปกติกลับมา.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส