ญาติเหยื่อเครนถล่มลุกฮือ เพราะคับแค้นใจ เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุแบบนี้มาแล้ว และโรงงานบิดไม่จ่ายค่าเยียวยา ทั้งยังฝังศพเอง ปิดข่าวด้วย
จากกรณีเกิดเหตุ เครนก่อสร้างภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับการหลอมเหล็ก พังถล่มลงมาทับนั่งร้าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
แต่คนงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นต่างด้าวล้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อไม่ให้นำศพและคนเจ็บออกมา รวมทั้งเรียกร้องเงินจากบริษัทศพละ 5 ล้านบาท และเยียวยาแรงงานทุกคนนั้น ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 23.00 น. ซึ่งผ่านมากว่า 7 ชั่วโมง การเจรจาระหว่างเจ้าของโรงงานกับแรงงานชาวพม่าจำนวนมาก ยังไม่เป็นผลสำเร็จ และเเรงงานยังลุกฮือเป็นระยะ จนทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เตรียมการอยู่หน้าโรงงาน มีการประกาศรวมพล และเตรียมอุปกรณ์ เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีการระดมกำลังตำรวจจากทุกโรงพักในพื้นที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยองเข้ามาภายในโรงงาน รวมทั้งมีการนำรถควบคุมผู้ต้องหา และรถน้ำเข้ามาเตรียมความพร้อมไว้ด้วย
ด้านนายชัยยงค์ คูเพ็ญวิจิตตระการ ประธานมูลนิธิกู้ภัย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด ณ เวลานี้ (23.00 น.) แรงงานชาวพม่า ซึ่งทราบว่ามีจำนวนมากกว่า 1 พันคน ภายในโรงงาน ยังคงแสดงท่าทีไม่พอใจนายจ้างและลุกฮือเป็นระยะ โดยทั้งหมดยังยืนกรานเรียกร้องให้นายจ้าง จ่ายเงินชดเชยสำหรับแรงงานที่เสียชีวิต รายละ 5 ล้านบาท และต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น ขณะที่ทางนายจ้าง ยังไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว โดยขอจ่ายค่าชดเชยรายละ 1 ล้านเท่านั้น จึงทำให้การเจรจาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เป็นผลสำเร็จ และอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จากสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย เข้ามาเป็นตัวกลาง ในการเจรจาเพื่อหาข้อยุติ
ประธานมูลนิธิกู้ภัย อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง บอกด้วยว่า สถานการณ์ความวุ่นวายในวันนี้ มีชนวนเหตุเกิดจาก แรงงานชาวพม่าส่วนใหญ่ เกิดความอึดอัดใจ เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้ เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้งภายในโรงงาน ทั้งเครนถล่มและไฟฟ้าช็อตแรงงานเสียชีวิต แต่หลังเกิดเหตุทางโรงงานจะปิดข่าว และไม่ยอมให้มีการแจ้งเหตุหรือแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าดำเนินการ โดยทางโรงงานจะเป็นผู้จัดการศพเอง ด้วยการฝังไว้ในโรงงาน ทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตไม่สามารถนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ อีกทั้งทางโรงงานยังบิดพริ้วไม่ยอมจ่ายชดเชยเยียวยาให้กับญาติของผู้เสียชีวิตตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกด้วย สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นชนวนเหตุ ทำให้พอเกิดเหตุในวันนี้ และมีผู้เสียชีวิตหลายคน แรงงานทั้งหมดจึงแสดงออกถึงความคับแค้นใจตลอดเวลาที่ผ่านมา และไม่เชื่อคำพูดของนายจ้างที่พยายามเจรจาหาข้อยุติ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ทราบว่าเกิดขึ้นระหว่างที่ทางโรงงานกำลังจะถอดเครนก่อสร้างลงจากที่สูง แต่ไม่ได้มีการใส่สลักล็อคไว้ ประกอบกับมีกระแสลมแรง จึงทำให้เครนหักโค่นลงมาทับคนงาน ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนงานอยู่บริเวณนั้นประมาณ 200 ถึง 300 คน.