คุมตัว เจ๊อ้วน ส่งศาล ลั่นไม่ขอประกันตัวเอง เชื่ออยู่ในเรือนจำสบายใจกว่า

คุมตัว เจ๊อ้วน ส่งศาล ลั่นไม่ขอประกันตัวเอง แม้ลูกสาวเตรียมหลักทรัพย์หลักล้าน แต่เชื่ออยู่ในเรือนจำสบายใจกว่า ดีไม่ต้องกินยาซึมเศร้า 

จากกรณี นายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาด อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของสนามชนไก่ ชาวจ.ชุมพร หายตัวปริศนาไปตั้งแต่คืนวันที่ 1 ก.พ. 67 เป็นเวลาร่วมเกือบ 2 เดือน ท้ายสุดก็ได้ไปเจอร่างเสียชีวิตคืนวันที่ 26 มี.ค. 67 ในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่บ้านหลักสิบ หมู่ 2 บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ถูกฆ่าโหด ฝังศพอยู่ในหลุมลึก ประมาณ 1.5 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร 

จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ นางวันเพ็ญ หรือ เจ๊อ้วน ธัญญพงศ์พานิช อายุ 64 ปี  ในข้อหาจ้างวานฆ่านายขนบ หรือ เสี่ยหมาด ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 1 เม.ย. 67 เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว เจ๊อ้วน ออกจากห้องขังก่อนเดินทางไปทำเอกสาร เพื่อนำตัวฝากขังศาล โดยระหว่างที่มีการคุมตัวออกจากห้องขัง เจ๊อ้วน เปิดใจก่อนที่จะถูกคุมตัวส่งศาลว่า “ตอนนี้รู้สึกโล่งอก สบายใจขึ้น ต่อจากนี้ไปคงจะมีเพื่อนในคุก และไม่ต้องกินยารักษาโรคซึมเศร้า ส่วนเหตุผลที่ไม่ประกันตัว เพราะอยู่ในคุกน่าจะมีเพื่อน หลังจากที่ต้องทนอยู่คนเดียวมาหลายปี แม้จะเตรียมหลักทรัพย์ค้ำประกันแล้ว แต่ก็ขอเลือกอยู่ในคุกดีกว่า” 

“ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ และฝากขอโทษตระกูลสมหวังทุกคน ที่ต้องทำเป็นแบบนี้ เพราะกลัวลูกจะถูกฆ่าตาย ตามที่เสี่ยหมาด เคยข่มขู่ไว้ เลยตัดสินใจทำไป เพราะฟิวส์ขาด แม้จะรู้ว่าขอโทษแล้ว เสี่ยหมาดจะฟื้นมาไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้มากกว่านี้ นอกจากรวบรวมเงินที่เหลือให้ไปจัดงานศพ และขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน” 

เมื่อถามถึง นายชัย ทางเจ๊อ้วน บอกว่า อย่าไปพูดถึงเขาเลย เมื่อถามย้ำว่า รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วนายชัย เป็นมือปืนรับจ้างชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช เจ๊อ้วน ตอบว่า ไม่รู้ รู้แค่ว่าเป็นเพื่อนของสามี แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นมือปืน  

หลังจากที่ เจ๊อ้วน ได้เซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวได้จัดเตรียมของใช้บางส่วนใส่ถุงกระดาษก่อนจะมีการต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับครอบครัว มาทราบภายหลังคือลูกสาว  

เจ๊อ้วน กล่าวต่อว่า ขอยืนยันไม่ขอประกันตัวในชั้นศาล เพราะตนทุกข์ทรมานอยู่คนเดียวมาหลายปีแล้ว ถ้าเข้าไปอยู่ในคุกอาจจะมีเพื่อน ไม่จำเป็นต้องกินยาซึมเศร้าอีกแล้วก็ได้ 

ทั้งนี้ตนได้ต่อสายคุยโทรศัพท์คุยลูกสาว เขาก็ร้องไห้เพียงอย่างเดียว และบอกว่าให้ตนดูแลสุขภาพ ตนกำชับไม่ให้เขาเดินทางมาเยี่ยมหรือมาหาตน เพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเห็นสภาพแบบนี้ ทั้งที่ลูกสาวได้เตรียมหลักทรัพย์ให้ตนไว้ประกันตัวแล้ว แต่ตนไม่ขอประกัน ไม่อยากออกมาอยู่ข้างนอก   

หลังจากนั้น เจ๊อ้วนก็เดินขึ้นรถตู้ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับไม้วอร์คเกอร์ และของใช้บางส่วน เพื่อเดินทางไปยังศาลหลังสวน