เกณฑ์ทหารจับได้ใบดำวิ่งกลับบ้านตีนเปล่า ระยะทางกว่า 7 กม.ท่ามกลางแดดร้อนจัด เพื่อนแห่ยินดี เผยใส่เสื้อแดงเอาเคล็ด
วันที่ 2 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจับใบแดง ใบดำ เกณฑ์ทหาร ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา หลายอำเภอมีความคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่อาคารเอนกประสงค์ที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีรายชื่อชายไทยอายุครบกำหนดเข้ารับการคัดเลือกเกณฑ์ทหาร ที่ถูกเรียกมาทั้งหมด 308 ราย จาก 5 ตำบล
โดยหลังจากผ่านการตรวจร่างกาย และการยื่นเอกสารขอผ่อนผันแล้ว เหลือชายไทยที่ต้องเข้ารับการจับใบแดง ใบดำ ทั้งหมด 111 ราย ซึ่งมีใบแดงทั้งหมด 54 ใบ สำหรับผู้ที่จับได้เข้าไปเป็นทหารกองประจำการ แต่มีผู้ยื่นใบสมัครเป็นทหาร จำนวน 13 ราย จึงเหลือใบแดงอยู่ทั้งหมด 41 ใบ โดยเมื่อถึงเวลาจับใบแดงใบดำ บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งกองแช่ง และกองเชียร์มาให้กำลังกันอย่างเนืองแน่น ส่วนผู้ที่เข้าจับใบแดง ใบดำ หลายคนก็ถือเคล็ดสวมใส่เสื้อดำ เพื่อหวังที่จะจับได้ใบดำ แต่มีนายราเมศวร์ น้อมกลาง อายุ 20 ปี หนุ่มอาชีพก่อสร้าง จากบ้านกัมผม หมู่ที่ 1 ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้จับใบแดงใบดำเป็นคนแรกของอำเภอ สวมเสื้อสีแดงแตกต่างจากคนอื่น เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกให้เดินเข้าไปจับใบแดง ใบดำ กองเชียร์จำนวนมากต่างส่งเสียงเชียร์ว่า ใบแดงๆๆ ทำเอาเจ้าตัวต้องรู้สึกเข่าอ่อน เจ้าหน้าที่ต้องกอดประคับประคองตัวไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเป็นใบดำ ถึงกับยกกำปั้นโห่ร้องด้วยความดีใจ และไปลงชื่อไว้
หลังจากนั้นได้ออกไปนอกอาคารเอนกประสงค์ และถอดเสื้อสีแดง ถอดรองเท้า วิ่งเท้าเปล่าไปบนถนนเพชรมาตุคลา ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ 40 องค์ศาเซลเซียส โดยมีเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านเดียวกัน ขี่รถจักรยานยนต์ มาคอยรักษาความปลอดภัย และคอยให้กำลังใจตลอดทาง
โดยนายราเมศวร์ น้อมกลาง บอกว่า ก่อนไปเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ตนเองได้ให้สัญญากับเพื่อนไว้ว่า ถ้าจับได้ใบแดง จะยอมเสียเงินเลี้ยงเหล้า แต่ถ้าจับได้ใบดำ จะวิ่งเท้าเปล่าจากที่ว่าการอำเภอกลับบ้าน เมื่อถึงวันเกณฑ์ทหาร จึงได้หาเสื้อใส่ แต่ในบ้านมีเสื้อสีแดงตัวเดียวที่ซักแล้ว ตัวอื่น ๆ ยังไม่ได้ซัก จึงหยิบมาใส่ แม้จะมีคนทักว่าใส่เสื้อแดงอาจจะเป็นลางไม่ดี ไปจับได้ใบแดงก็ได้ แต่ตนเองก็คิดว่าน่าจะเป็นเคล็ดทำให้จับได้ใบดำก็ได้ จึงใส่มา โดยตนเองนั้นมีคิวจับใบแดง ใบดำ เป็นคนแรกของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตอนออกไปจับใบแดง ใบดำ รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อรู้ว่าได้ใบดำ จึงดีใจมาก รีบโทรศัพท์ไปบอกครอบครัวว่าจับได้ใบดำแล้ว และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อน ด้วยการออกไปวิ่งเท้าเปล่า จากที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ไปบนถนนเพชรมาตุคลา เพื่อไปบ้านกันผม ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอกว่า 7 กิโลเมตร โดยมีเพื่อนคนหนึ่งที่จับได้ใบดำเหมือนกัน วิ่งมาด้วย และมีเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านเดียวกัน ขี่รถจักรยานยนต์ให้กำลังใจตลอดทาง