วันที่ 9 สค.60 บริเวณศาลจังหวัดนครพนม มีบรรดาลูกหนี้ของเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบคนดัง “เจ๊สุ” นางสาวสุนภา หรือสุพิชญ์ฌา เรืองสุวรรณ หรือ อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี เดินทางมารวมตัวกันที่ศาลาพักญาติราว 50 คน เพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นางสาลิกา คนฉลาด อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 7 บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก "เจ๊สุ" พร้อมลูกน้องสาวผู้เป็นมือขวา เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และประกันตัวออกมาสู้คดีกันในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษา แต่ทนายฝ่ายจำเลยคือ "เจ๊สุ" ยื่นเอกสารขอเลื่อนอ้างว่าลูกความป่วยกะทันหัน พร้อมกับยื่นแถลงปิดคดีกับศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพิ่มเติม ซึ่งศาลเมตตานัดให้มาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 9 ส.ค. 60 เวลา 09.00 น.
ทันทีที่ “เจ้สุ” เดินทางมายังศาลจังหวัดนครพนมก็ได้รีบขึ้นไปนั่งรออยู่ในห้องพิจารณา 6 เพื่อหลบการเผชิญหน้ากับบรรดาลูกหนี้ที่เดินทางมารอฟังคำพิพากษาเป็นจำนวนมาก และในที่สุดผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ยื่นตามศาลชั้นต้นให้จำคุกเจ๊สุ พร้อมลูกน้องเป็นเวลา 2 ปี ทำให้เจ้าแม่เงินกู้คนดังสิ้นสุดอิสรภาพทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลฯ ได้ควบคุมตัวไปยังห้องขังใต้ถุนศาล รอทนายยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อต่อสู้ในชั้นฎีกาซึ่งอยู่ในดุลพินิจของศาลฯจะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ กลุ่มลูกหนี้ได้เดินลงมายังศาลาพักญาติ ต่างโผเข้ากอดกันร่ำไห้ด้วยความดีใจ ซึ่งนางสาลิกา คนฉลาด โจทก์ในคดีและเป็นผู้สร้างตำนานเอาคนรวยเข้าคุก เปิดเผยว่า ขอบคุณในความยุติธรรม ตนน้อมรับฟังคำพิพากษาไม่ว่าจะออกมาในทิศทางใด วันนี้ทุกอย่างเหมือนถูกปลดปล่อย รู้สึกโล่งใจมาก ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
สำหรับคดีดังกล่าว นางสาลิกา ตัดสินใจจ้างทนายความฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลจังหวัดนครพนมเอง โดยศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ให้ตัวนายทุนและลูกน้องที่เป็นพยานเท็จให้ต้องโทษติดคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 โดยเจ๊สุได้ต่อสู้ชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้
นางสาลิกา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ช่วงระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ทางกลุ่มของเจ๊สุได้ส่งคนมาขอให้ยุติคดี โดยจะยอมจ่ายเงินชดเชยให้ 3 ล้านบาท แต่ดิฉันปฏิเสธเพราะเห็นว่าคนยากคนจนถูกนายทุนรายนี้เอารัดเอาเปรียบมามากแล้ว ตอนนี้ดิฉันจะลองพาคนรวยเข้าคุกดูสักครั้ง ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายทุนและลูกน้องเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา” นางสาลิกากล่าวย้ำ