ชีวิตยิ่งกว่าละคร เมียหลวง หอบหลักฐานร้อง จับได้ผัวแอบสามีคบกิ๊กสาวลาว ดาวติ๊กต็อก บอกเคยถูกสามีและแม่ผัวทำร้าย แถมฟ้องหย่า
วันที่ 10 เม.ย. 67 นางสุภาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี อาชีพแม่บ้าน นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ นายชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้วประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จ.นนทบุรีว่า ถูกสามีคือนายศิระ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ที่อยู่กินกันมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี2544 มีลูกด้วยกัน 2 คน แอบมีชู้เป็นสาวลาวดาวติ๊กต็อกที่มีผู้ติดตามเกือบ 2 ล้าน
ซึ่งมาจับได้ว่า สามีมีชู้ตั้งแต่ปี 62 จึงขอเคลียร์ แต่ชู้ไม่ยอมเลิก สามีไม่พอใจจึงเก็บกระเป๋าออกจากบ้าน โดยมีแม่สามี อายุ 74 ปี คอยสนับสนุนยุยงส่งเสริมให้ทิ้งครอบครัวไปอยู่กับชู้อย่างเปิดเผย
หลังจากนั้นก็มีปัญหาครอบครัวมาตลอดจนเกิดการทะเลาะวิวาทอย่างหนัก มีการทำลายโทรศัพท์มือถือ และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 63 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำยังถูกสามีฟ้องหย่า จนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยเหลือดังนี้ 1.ต้องการทนายแย้งเรื่องที่โดนฟ้องหย่า 2.คดีทำร้ายร่างกายไม่มีความคืบหน้า และ3.ดำเนินคดีเรื่องถูกทำร้ายกาย
นางสุภาภรณ์ (ผู้เสียหาย) กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกแม่สามี และสามีทำร้ายร่างกาย ตอนนี้คดีไม่คืบหน้า แถมตนยังได้รับหมายศาลเรื่องฟ้องหย่าจากสามี ตนรู้ว่าสามีมีชู้เป็นสาวลาวดาวติ๊กต็อกผู้ติดตามเกือบ 2 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 62 ซึ่งสามียืนยันจะไปอยู่กินกับชู้ และไม่กลับมาเป็นครอบครัวกับตน แม่สามีก็สนับสนุนให้สามีมีชู้ด้วย
ปัจุจุบันได้มีการไปซื้อบ้านหลังใหม่ (บ้านหลังที่3) อยู่ร่วมกันที่ย่าน อ.บางบัวทองอย่างเปิดเผย ก่อนหน้านี้สาเหตุที่ตนจับได้ เนื่องจากครอบครัวตนมีบ้าน 2 หลัง บ้านหลังที่ 1 ที่อยู่ปัจจุบัน ต.ปากเกร็ด และบ้านหลังที่ 2 อยู่ที่ต.บ้านใหม่ พอเกิดเรื่องสามีและแม่ของสามีได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังที่ 2 ซึ่งตนเคยเห็นว่ารถยนต์ของชู้จอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวผ่านกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน จึงตัดสินใจชวนลูกสาวไปดูด้วยตัวเอง แต่สวนทางกันทำให้ตนเจอแต่แม่สามีที่อยู่ในบ้านหลังนั้น
จากนั้นตนพยายามเดินหารอบบ้านแม่สามีได้เข้ามาตบตี ตนจึงหนีลงมาด้านล่าง และแม่สามีถีบตนตกบันได ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ สักพักสามีได้กลับมา และร่วมทำร้ายร่างกายตน เข้ามาตบที่ศีรษะและดึงผมก่อนสามีจะขับรถหนีไปกับชู้ ตนจึงขับรถตามและได้มีปากเสียงอีกครั้ง จากนั้นจึงมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ เพราะตนถูกสามีตบตี เพื่อปกป้องชู้และหักโทรศัพท์มือถือตนทิ้ง
ต่อมาสายตรวจได้เข้ามาห้ามและไปไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจ ซึ่งตนได้แจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 63 แต่คดีไม่คืบ วันนี้ตนกลับได้รับหมายศาลเรื่องฟ้องหย่าจากสามี จึงอยากให้ดร.แก้วช่วยหาทนายมาสู้คดี เพราะตนเป็นแม่บ้านไม่มีอาชีพ และไม่มีรายได้ มีลูก 2 คน คนโตอายุ 22 ปี คนเล็กอายุ 18 ปีตลอดเวลาตนทำหน้าที่เลี้ยงดูลูก และไม่รู้เลยว่าสามีแอบมีชู้จนย้ายไปอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย
ตนลำบากมาก เพราะต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนค่าใช้จ่ายทุกอย่างราคาสูงขึ้น สามีให้ค่าเลี้ยงดูลูกคนโต 8,000 บาท คนเล็ก 3,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอ ตอนนี้ตนอยากให้สามีเลิกกับชู้อย่างเด็ดขาด ตนยืนยันที่จะไม่หย่า เพราะไม่ได้ผิดถ้าจะหย่าก็ต้องจ่ายในราคาที่สูง ตนรักสามีและอยู่กินด้วยกันมานาน ตนอยากบอกกับสามีว่าก่อนที่จะคบกันเคยสัญญาอะไรกันไว้บ้างแล้วมาทำร้ายกันแบบนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ลูกมีปัญหาและตนกับลูกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หากสามีไม่เลิกยุ่งกับชู้ ตนจะฟ้องร้อง แต่ถ้าเลิกกันตนก็จะยอมจบ ซึ่งชู้ของสามีเป็นต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย
ดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับตน เพราะเดือดร้อน เรื่องปัญหาครอบครัว และอยากให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความที่ถูกสามีและแม่สามีทำร้ายร่างกายแล้วไม่คืบหน้า และล่าสุดยังถูกสามีฟ้องหย่า ซึ่งปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมที่เกิดขึ้น คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ยุ่งยากอยู่ระหว่างดำเนินการในแต่ละขั้นตอนให้มีทางออกที่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างช่วงที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวนางสุภาภรณ์ได้โทรหาสามี ซึ่งยืนยันว่าจะเลิกและขอเจรจาที่ศาลเท่านั้น และได้โทรติดต่อสาวลาวดาวติ๊กต็อกที่เป็นกิ๊กกับสามีของนางสุภาภรณ์ ซึ่งมีการโต้เถียงกัน โดยสาวลาวคนดังกล่าวได้บอกว่าให้นางสุภาภรณ์บอกสามีตัวเองว่าให้เลิกยุ่ง และบ้านหลังที่ 3 ย่านบางบัวทอง สาวลาวเป็นคนซื้อเอง ไม่ใช่บ้านที่แม่สามีของนางสุภาภรณ์ซื้อ และได้มีการหัวเราะเยาะก่อนจะวางสายไป