กทม. ตรวจสอบน้ำดื่มและบริเวณรอบโรงงาน ที่พบกากแคดเมียม

เจ้าหน้าที่กรมอนามัยกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบหากากแคดเมียมปนเปื้อนในพื้นที่รอบชุมชนจุดใกล้เคียงโรงงานย่านพระราม 7 ส่วนตัวอาคารปิดประกาศคำสั่งควบคุมอาคารห้ามเข้าออก

เจ้าหน้าที่กลุ่มอนามัยกรุงเทพมหานคร นำอุปกรณ์เก็บตัวอย่างน้ำและดินใกล้เคียงโรงงานแห่งหนึ่งภายในซอยเรียงปรีชา ถนนประชาราษฎร์ แขวงวงศ์สว่าง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเก็บตัวอย่างท่อน้ำทิ้งใกล้เคียงโรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้สวมหน้ากากป้องกันสารเคมี สวมถุงมือ และสวมหมวกอนามัย เพื่อความปลอดภัย

หลังทำการตรวจสอบรอบพื้นที่บริเวณหน้าโกดังของโรงงานดังกล่าวแล้ว ได้มีการขออนุญาตเจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อเข้าไปตรวจสอบท่อระบายน้ำทิ้งภายในโกดังจัดเก็บ ซึ่งจะต้องมีการแสดงบัตรประจำตัวคัดกรองผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้นในการเข้าไปด้านใน เนื่องจากโกดังได้อยู่ภายใต้ประกาศการควบคุมอาคาร นอกจากนี้กากแคดเมียมที่พบเมื่อวานได้มีคำสั่งอายัดห้ามเคลื่อนย้ายติดประกาศไว้ที่ถุงบิ๊กแบ็คด้วย

นายแพทย์นิธิรัตน์ บุญตานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพเขตเมือง  เปิดเผยว่าในวันนี้เจ้าหน้าที่มุ่งเน้นการเก็บตัวอย่างน้ำใช้ น้ำดื่ม และน้ำทิ้ง ในรัศมีใกล้เคียงโรงงาน 1 กิโลเมตร ก่อนเตรียมตรวจสอบระบบระบายท่อน้ำทิ้ง เนื่องจากพบว่าโรงงานแห่งนี้มีท่อระบายน้ำทิ้งเชื่อมต่อไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีระบบการคัดกรองหรือบำบัดน้ำเสียหรือไม่ จึงอยากให้ประชาชนที่อาศัยใกล้เคียงแม่น้ำเจ้าพระยาหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติไปก่อน จนกว่าจะมีผลตรวจออกมายืนยันอีกครั้ง

ส่วนพนักงานของโรงงานแห่งนี้จะมีการตรวจหาสารแคดเมียมในร่างกาย ซึ่งจากข้อมูลยังไม่มีการซักประวัติอย่างละเอียดว่ามีกลุ่มไหนที่มีความเสี่ยงบ้าง แต่โดยรอบพื้นที่เป็นโรงงานทั้งหมดในรัศมี 1 กิโลเมตร จึงทำให้กลุ่มเสี่ยงจะอยู่ที่พนักงานของโรงงานดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านจะอยู่ไกลออกไป หากไม่พบข้อมูลว่าโรงงานแห่งนี้เคยถลุงก็จะไม่ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ซึ่งจะไม่มีความเสี่ยงเท่ากับผู้ที่สัมผัส เนื่องจากแคดเมียมสามารถเข้าสู่ร่างกายจากการหายใจการกินและการสัมผัสก็สามารถซึมเข้าผิวหนังได้ และไม่มียาตัวใดรักษาได้จะมีโลหะปนเปื้อนในร่างกาย 20 -30 ปี ส่วนใหญ่พบอาการทางกระดูก เช่น โรคอิไตอิไต

ขณะที่ชาวบ้านบริเวณปากซอยของโรงงานจุดพบแคดเมียม เริ่มเกิดความกังวลใจ เพราะติดตามข่าวจากสารเคมีอันตรายนี้มาตลอด ไม่คิดว่าจะมาอยู่ใกล้บ้านตัวเอง ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้กังวลใจอย่างมาก กลัวว่าจะได้รับสารอันตรายนี้เข้าสู่ร่างกายไปแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดแพทย์มาตรวจหาจากแคดเมียมในร่างกายชาวบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจ ตลอดจนรีบย้ายกากแคดเมียมออกจากพื้นที่โดยเร็ว

สำหรับโรงงานแห่งนี้ประกอบกิจการรับซื้อและขายเศษเหล็กทุกชนิด ซึ่งส่วนของหน้าโรงงานยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ตัวอาคารได้ถูกปิดกั้นตามคำสั่งทางกฎหมาย โดยจุดนี้เป็นซอยเข้าไปไม่มีบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากด้านในเป็นลานจอดรถของสำนักงานสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีรถเจ้าหน้าที่และรถขยะของ กทม. ผ่านเข้าออกตลอดทั้งวัน แต่กลับไม่มีใครรู้ว่ามีการลักลอบขนย้ายสารเคมีต้องห้ามเข้ามาในพื้นที่ ตลอดจนโรงงานแห่งนี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายนำกากสารเคมีมาใช้ในการประกอบกิจการด้วย