รวบอดีตผู้สมัคร สส. รับปลอมเอกสาร ตกแต่งบัญชีการเงิน ช่วยผีน้อย ยื่นขอวีซ่าเข้าทำงาน ยุโรป คิดหัวละ 2.5 หมื่นบาท
วันที่ 11 เม.ย. 67 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผบช.สอท. ร่วมกับ Mr.Justin Alves ผู้จัดการด้านการตรวจสอบวิเคราะห์ความเสี่ยง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ปรึกษา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวซีแลนด์ ร่วมแถลงผลการเปิดปฏิบัติการ “SAVING GOOD MAN“ ทลายแก๊งรับปลอมเอกสารยื่นขอวีซ่านิวซีแลนด์ เปิดทางผีน้อยโซนยุโรป
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.2 บก.สอท.3 ได้รับประสานข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ กรุงเทพฯ แผนกตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงธุรกิจนวัตกรรม และการจ้างงาน ว่าตรวจพบการปลอมแปลงเอกสารในการยื่นขอต่อวีซ่าแบบออนไลน์ของสถานทูตนิวซีแลนด์แบบออนไลน์ ผ่านช่องทาง
www.immigration.govt.nz/new-zealand-visas โดยพบเอกสารที่ถูกปลอมแปลงเกี่ยวกับรายการเดินบัญชี จำนวน 6 ราย และเอกสารรับรองการทำงาน จำนวน 5 ราย และยังพบข้อมูลในลักษณะเดียวกันที่ถูกแชร์ระหว่างประเทศพันธมิตรทั้ง 5 ประเทศ
ประกอบด้วย อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เกี่ยวกับเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ถูกปลอมแปลง
ทางชุดสืบสวนกก.2 บก.สอท.3 ทำการสืบสวนจนทราบว่า เอกสารปลอมดังกล่าวมีที่มาจากบริษัทแห่งหนึ่งที่มีนายจิรสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวอุดรธานี อดีตผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองหนึ่งเป็นเจ้าของ
อีกทั้งจากการตรวจสอบยังพบว่ามีการโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของบริษัท ซึ่งมีผู้ติดตามเกือบ 2 หมื่นคนว่ารับแต่งบัญชี เพื่อประกอบการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศนิวซีแลนด์และกลุ่มประเทศพันธมิตร
ต่อมา พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.อ.มรกต แสงสระดู ผกก.2 บก.สอท.3 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดอุตรธานี ออกหมายค้น 2 จุด ในพื้นที่ ต.เชียงพิณ และ ต.บ้านเสื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมจับกุมนายจิรสิน เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของบริษัท พร้อมตรวจยึดหลักฐานสำคัญ ประกอบด้วย อุปกรณ์สำรองข้อมูล เอกสารทางการเงิน สมุดบัญชี เอกสารเกี่ยวกับการขอวิซ่า และรายการบันทึกลูกค้า รวม 14 รายการ
จากการสอบปากคำนายจิรสิน ให้การยอมรับว่าได้นำเอกสารตัวจริงไปสแกน แล้วใช้โปรแกรมตกแต่งภาพทำการแก้ไขข้อมูลตกแต่ง ตัวเลข ทางบัญชีให้รายการเดินบัญชีของลูกค้ามีเงินหมุนเวียนจำนวนมากขึ้น เป็นการสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือของผู้ที่จะขอยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตต่างๆ แล้วบริษัทฯ ได้นำเอกสารที่แก้ไข ดังกล่าวไปยื่นกับทางสถานทูตผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า มีผู้ยื่นความประสงค์ให้บริษัทดำเนินการลักษณะดังกล่าวแล้วกว่า 100 คน โดยจะได้ค่าจ้างรายละ 25,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหา 'โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทำต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งผู้กระทำผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวและ,ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ก่อนควยคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป