เยาวชนชายจีนอายุ 16 ปี กระโดดลงจากรถ วิ่งหนีเข้าโรงพักประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขอให้ ตร.ช่วยกลางดึก บอกชาวจีนด้วยกันบอกจะพาไปทำงานเสริ์ฟที่เวียดนาม แต่กลับถูกส่งมาไทย กลัวถูกหลอก พอรถขับผ่านเห็นป้าย Police จึงกระโดดลงรถขอความช่วยเหลือ
12 เม.ย.67 พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ตำรวจชุดสืบสวนภูธรประโคนชัย เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่การข่าวทหาร และล่ามภาษาจีน ได้ทำการสอบถามข้อมูลจาก นายซูไค เยาวชนจีน อายุ 16 ปี หลังจากได้กระโดดลงจากรถยนต์คันหนึ่งที่ขับมาตามถนนสาย 24 มุ่งหน้าไปทาง อ.นางรอง แต่พอถึงเขตเทศบาลตำบลประโคนชัย ช่วงเวลา 00.26 น. คืนวันที่ 11 เม.ย.67 ได้กระโดดลงจากรถยนต์วิ่งข้ามถนนเข้าไปใน สภ.ประโคนชัย แล้วไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่นายซูไค ชาวจีนคนดังกล่าววิ่งมาตามถนนลักษณะเหมือนพยายามวิ่งหนีก่อนจะเข้าไปในโรงพัก
โดยจากการสอบถามนายซูไค ผ่านล่ามและโปรแกรมแปลภาษาในโทรศัพท์มือถือ ก็ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า เป็นชาวมณฑลหูเป่ย ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีคนรู้จักเป็นชาวจีนด้วยกัน ไปรับตัวมาจากจีนบอกจะพาไปทำงานเสริ์ฟ ที่ประเทศเวียดนาม แต่กลับถูกส่งตัวไปที่ลาวรวมกันประมาณ 10 คน จากนั้นก็ถูกแยกกับกลุ่มเพื่อน จากลาวข้ามมาไทยจำนวน 4 คน ซึ่งใน 4 คนมีคนไทย 2 คน คนจีน 2 คน แต่ไม่รู้ว่าจะถูกนำตัวไปที่ไหน ล่าสุดรถคันดังกล่าวได้ขับพาตนกับเพื่อนชาวจีนอีกคนขึ้นรถมา แต่ไม่รู้จะพาไปไหน พอมาถึงจุดดังกล่าวช่วงกลางดึกซึ่งตนเห็นป้ายคำว่า “Police” จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถวิ่งข้ามถนนเข้าไปในโรงพักเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่เพื่อนที่นั่งมาไม่กล้าลงมาด้วย
แต่ล่าสุดสามารถติดต่อกับเพื่อนได้แล้ว โดยเพื่อนได้ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.วังเจ้า จ.ตาก และทราบว่าแม่ของนายซูไค ได้ติดต่อประสานกับทางกงสุลไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขอรับตัวลูกชายแล้ว ซึ่งขบวนการตรงนี้ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวยังไม่ทราบข้อมูลชัดเจน ว่าเป็นขบวนการลักลอบนำพาแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือเป็นการหลอกลวงจะพาไปทำงานที่ผิดกฎหมาย หรือเข้าสู่ขบวนการคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ทางผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ร่วมกับสืบจังหวัด ตม. เร่งติดตามรถคันดังกล่าว และหาข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติมว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป