สามพี่น้องเล่นสงกรานต์หน้าบ้าน แต่ถูกคู่อริยิงใส่น้องชายบาดเจ็บ พี่ชายบุกไปเคลียร์ถูกอีกฝั่งแทงดับคาที่
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 เวลาเวลา 18.40 น.ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธปืนและมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในชุมชนบ้านสะอาด ม.2 ตำบลพรสวรรค์ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพตำบลภูเงินกู้ชีพโรงพยาบาลเสลภูมิ
ถึงจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าบ้านพักชั้นเดียว พบเพียงคราบเลือดตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือที่บ้านพักของตนเอง พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 รายคือนายเนวิน อายุ 15 ปี ถูกยิงที่ขาซ้าย นายธีรศักดิ์ พิมพ์พา อายุ 24 ปี แผลถูกฟันที่เข่า ใบหน้าลึกถึงกระดูก นายพันธ์ณรงค์ นัดทะยาย อายุ 35 ปี ถูกแทงแผลทะลุที่แขนด้านซ้าย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในจุดเกิดเหตุคือนายทักษิณ ขันธจันทร์ อายุ 22 ปีถูกแทงกลางทรวงอก กู้ชีพให้การช่วยเหลือเร่งนำส่ง รพ.เสลภูมิ
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยสามารถบันทึกภาพ ขณะเกิดเหตุได้ โดยจะมีชาย 2 คนขี่จักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน แล้วถามหาคนชื่อ เอ๊ะ หลังจากนั้นก็มีการพูดเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นแต่ไม่ลงตัว จึงเกิดด่าทอกันรุนแรง กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ชายวันรุ่น 2 คนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไป
หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาทีชายวัยรุ่นคู่กรณีได้วิ่งกลับมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ได้วิ่งเข้าไปในบ้านจุดเกิดเหตุ ก่อนจะมีการยื้อแย่งอะไรบ้างอย่าง ก่อนจะมีรถเก๋งสีขาววิ่งตามมาจอดหน้าบ้าน และมีคนวิ่งลงจากรถเข้าไปพัวพัน ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องคล้ายกับมีผู้ถูกทำร้ายในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ตาย บ้านสะอาด ม.1 ตำบลพรสวรรค์ อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร บรรยากาศในงานศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มาช่วยงาน
นางหอมจันทร์ ขันธะจันทร์ อายุ 55 ปี แม่ผู้ตายให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชาย 3 คน ก็ได้เล่นสงกรานต์ที่หน้าบ้าน ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต จู่ๆน้องชายผู้ตาย (นายเนวิน) ได้วิ่งมาบอกกับตนว่าถูกยิง ก่อนที่ผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์อออกไปตามที่บ้านของคู่กรณี ก่อนจะถูกแทงจนเสียชีวิต
ผู้ตายเองก็เพิ่งกลับมาจากทำงานที่กทม.ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกหรือเป็นลางร้ายอะไร ตนก็อยากวอนขอความเป็นธรรมให้กับผู้สูญเสียด้วย เพราะลูกชายคนหนึ่งตาย ส่วนอีกคนก็บาดเจ็บ ตนก็เหมือนเสียเสาหลักไป เพราะลูกชายทำงานส่งเงินมาบ้านตลอด
ด้านความคืบหน้าทางคดี ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐา นเบื้องต้นได้สอบพยานไป 1 ปา กและตรวจยึดอาวุธปืนปากกาและมีด 1 เล่มที่ตกในจุดเกิดเหตุ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.